สวัสดีปี 2552

31/12/2551

04.25 pm
ขายของ ห่อของขวัญ จัดกระเช้า
ยกเบียร์ ขายเหล้า ขายน้ำแข็ง โซดา น้ำอัดลม
มือเป็นระวิง..

05.48 pm
ยุ่ง ยุ๊ง ยุ่ง..
ขายๆๆๆๆ รับเงินๆๆๆๆ

07.05 pm
หิวน้ำ หิวข้าว หิวเค้กโว้ย..

09.50pm
เหตุการณ์ ค่อยๆสงบลง
ป่านนี้หลายคนเมากลิ้งในงานเลี้ยงส่งปีใหม่ไปแล้ว

คืนสุดท้ายของปี 51
ปีที่สุดแสนจะวุ่นวาย (และน่ารำคาญ )

นั่งดูใจร้าวตอนจบ..
(ขาย เบลน285 เป็นพักๆ)

กับความรักที่มั่นคง
ไม่ว่าคนรักจะเป็นไง
ความรักที่มีให้ก็ไม่เปลี่ยนแปลง
อืม.. รักแท้

10.00pm
เป็นตอนที่หมอขอมินนี่แต่งงาน
ฝันหวานไปว่า
จะมีโอกาสแบบนี้บ้างไหมหนอ?
เคยบอกเดวิดว่า
ถ้าจะขอหยกแต่งงาน (น่าน..ช่างกล้าคิด 55..)
ขอเป็นแบบธรรมดา
แต่โรแมนติกหน่อย
ไม่ต้องหรูหรา ฟู่ฟ่า
ประมาณ กุหลาบซักดอกก็พอแล้ว..
(ยังไงก็ได้ ขอให้ขอมาเถอะ 5555..)

10.20 pm
“ไม่เป็นไรหรอกพ่อ..”
น้ำตาไหลพรากๆ(อยู่ข้างใน)

ใจฉันเป็นของเธอ - บอย PeaCeMaKer Ost.ใจร้าว
ฉันไม่รู้ว่าเป็นเพราะใคร
โชคชะตาเป็นใจ
หรืออะไรทำให้เธอลาจาก

คนที่รักกันมากมาย
ต้องพรากกันไปไกล
ฉันก็คงจะทนอย่างไรไหว

*ฉันไม่รู้จะทำอย่างไร
เหมือนใจมันจะขาด
ชีวิตมันดูอ้างว้าง
วังเวงไปทุกอย่าง
เหมือนคนที่เดียวดาย
จมอยู่กับความหลัง
อยากให้รู้ว่าฉันเสียใจ
และปวดร้าวมากเพียงไหน

**ใจของฉันเป็นของเธอ
ไม่ว่านานเท่าไร
และมันจะเป็นของเธอตลอดไป
ใจของฉันมันเป็นของเธอ
คนเดียวทั้งใจ
จะรอเธอรักเธอจนตาย...ใจเอย

ฉันไม่รู้ว่าเหตุผลใด
ฟ้าข้างบนจงใจ
หรือว่าใครทำให้เราไกลกัน
มันโหดร้ายจนเกินไป
ฉันไม่เคยเตรียมใจ
ที่จะเสียเธอไปอย่างวันนี้..

**กด Play เพื่อฟังได้เลย

10.32pm
จงบอกรักคนที่ตนรัก
ตอนที่เค้าสามารถรับรู้ความหมายของมัน
แล้วคุณจะอัศจรรย์ใจ เมื่อคุณได้รับ คำว่า ‘รัก’ กลับคืนมา

11.21 pm
ปิดร้าน..

11.30 pm
ส่งข้อความหาเพื่อนๆ กว่า 30คน -_-‘
อาบน้ำ..

11.54pm
โทรหาที่รัก
อีลีนรับ
เดวิดออกไปหาพี่สาวที่แบงค์
คุยกับอีลีนซักแป๊ปก็วาง

นั่งดูทีวี เค้าท์ดาวน์ไปกับเค้าด้วย

00.00am
ส่ง ข้อความ หาคุณแฟนที่รัก

01/01/09 00.01am
สวัสดีวันใหม่ สวัสดีปีใหม่ค่ะ..

..^______________^..

Merry X'mas 2008 ^__^

เมื่อวาน (คืนวันที่ 24 ธันวา) หยกโทรไปหาคุณแฟน

(ใช้ ซิมอินเตอร์ นาทีละบาทน่ะ)
อีลีน แม่เดวิดรับสาย
คุยกันเจื้อยแจ้ว นานสองนาน แล้วอีลีนก็ถามว่านี่ใครนะ?
เราก็..หยกเองจ้า
เค้าก็ โอ้..หยกหรอ (เค้าคิดว่าเป็นคนอื่นที่เค้ารู้จักน่ะ)
แล้วก็คุยกับดอน พ่อเดวิด
เสียงหนุ่มมาก.. เสียงคล้ายๆเดวิดเลย
แล้วก็ส่งไม้สุดท้ายต่อให้เดวิด

Last night (24th Dec) I called David’s home in Canada
(Used Inter Sim of TrueMove, 1 Baht per Min)
First, Elaine picked up the phone
We have talked for a short while
Then finally, she asked “who is this?”
It’s me Yok!
Oh..Yok!! she said surprisingly (she thought I was someone else)
Then next, Don was on the phone
He sounded so young and just like David
And finally, my David was on the phone

เดวิดได้รับของขวัญจากหยกแล้ว
โดนดุนิดหน่อย เพราะเค้าไม่อยากให้เรา
หมดเงินไปกับค่าของขวัญ กับค่าส่งไปรษณีย์
(ค่าส่งแพงกว่าของขวัญอิก เหอ เหอ )

David just got my x’mas present,
will open it tomorrow morning
And also complained a little bit that
I spent too much on it (with expensive postage)
(well, I admit that the postage is more expensive than a gift! Sorry :( )

เด๋วตอนเย็นเค้าจะไปโบสถ์
แล้วพรุ่งนี้ (25ธค) เค้าจะไปบ้านพี่สาว
ก็ปาร์ตี้คริสมาสแบบครอบครัวๆ
In the evening, he and his family was going to the church
Then tomorrow (25th Dec) they go to Diane’s house (David’s sister)
for a family party.

คุยกันนาน ร่วมครึ่งชั่วโมง
ก็วาง เพราะอีลีนรอโทรศัพท์จากเพื่อนอยู่
(คุยจนไม่มีอะไรจะคุย
ก็ยังไม่อยากวางเลย ซิกซิก..)
We have talked for about half an hour
Then hung up
(Although I have nothing to say,
but I don’t want to hang up sob sob.. )


ของขวัญอันนี้ ลุงเดให้ไว้ตั้งแต่เดือนมิถุนา ตอนเค้ามาทำวิจัย
ให้แล้วบอกว่า ของขวัญวันคริสมาส
สรุปคือต้องรอประมาณ 5-6เดือนถึงจะเปิดได้
This gift I got from David when he was here for his research since June
He said it is a Christmas gift so I have to wait until x’mas to open it
Which means I have to wait for 5-6 months -_-‘

บอกให้รอ เราก็รอ.. (อย่างว่าง่าย 555+)
Well, if you said so.. then I will..


แล้ววันที่ 25 ธันวาคม ก็มาถึง
ตื่นลืมตา หน้ายังไม่ได้ล้าง ฟันยังไม่ได้แปรง
ก็เปิดการ์ด ที่ได้รับเมื่ออาทิตย์ก่อน มาอ่าน
เป็นการ์ดจากเดวิดแล้วก็ พ่อแม่เค้า
(ก็ได้อิก 20$ )
แล้วก็ได้เวลาเปิดของขวัญที่รอคอย..
Then 25th Dec has come ho ho ho!!
First thing I did when I woke up
(before brushing my teeth!)
was open the cards I got last week
one from David darling,
and another one from his parents
said luckily that David got home safely before the airport had a problem!
(Thanks for 20$!!)
and the last but not least.. la la!
The present!! Yeah yeah!

จากที่คลำๆ (ด้วยความอยากรู้) ก็รู้แล้วว่าเป็นตุ๊กตาแน่นอน
แค่ไม่รู้ว่าเป็นตัวอะไรเท่านั้นเอง..
I bet it must be an animal staff
Just don’t know that it would be a dog or bear or else


พอเปิดดู..
ฮ๊า..
ยิ้มไม่หุบเลย
When I saw it..
Sorry, I could not stop smiling..

ไม่น่าเชื่อว่าลุงเดจะเลือกซื้ออะไรกุ๊กกิ๊กอย่างนี้ให้..
น่ารักดีเนาะ
Could not believe that he would buy me this lovely thing..
It is so cute! (don’t ya think?)

หมวกแดงก็ มะเขือเทศ
ผ้าพันคอเขียวก็ ถั่วลันเตา
อุ๊ย..เข้ากั๊น เข้ากัน 555+
The red hat is Tomato
The green scarf is SweetPea
What a perfect match!! Hahaha..

Thank you..

ก็..
Well..

Merry Christmas to Everyone
(especially, to whoever visiting my Blog hehe.. )

Have a great great X’mas with person you love

Merry X’Mas

ho ho ho..

ps. Merry X’Mas to my love, Tomato.

Supermassive Black Hole - Muse Ost Twilight

เอาเพลง Soundtrack จากหนังเรื่อง Twilight มาให้ฟังกัน
เพลงนี้ จะเป็นตอนที่ครอบครัว Cullen เล่นเบสบอลกันน่ะ..
เท่ห์ดีนะ.. ลองฟังดู..

Supermassive Black Hole - Muse

Supermassive Black Hole - Muse

Vampire Twilight.. แรกรัตติกาล..

When you can live forever..
What do you live for??

ชีวิตของเบลล่า สวาน (คริสเทน สจ๊วต)

ดูจะต่างจากสาวในรุ่นเดียวกันกับเธอ เธอไม่เคยสนใจวัตถุภายนอก

และใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย ในโรงเรียนมัธยมที่ฟินิกซ์
แต่เมื่อแม่ของเธอตัดสินใจที่จะแต่งงานใหม่

และต้องย้ายไปอยู่กับสามีที่ฟลอริด้า
เธอจึงจำเป็นต้องย้ายไปอยู่กับพ่อ (บิลลี่ เบิร์ค) ที่เมืองฟอร์ค รัฐวอชิงตัน
เธอไม่เคยคิดเลยว่า การย้ายครั้งนี้จะแตกต่างจากที่แล้วๆ มา
จนกระทั่งเธอก็พบกับเด็กหนุ่มรูปงาม เอ็ดเวิร์ด คัลเลน (โรเบิร์ต แพ๊ตทินสัน)
ผู้ที่ทั้งมีความฉลาดและไหวพริบเป็นเลิศ

เขาไม่เหมือนผู้ชายที่เธอเคยรู้จักมาก่อน
และเธอก็รู้สึกว่าดวงตาของเขา

สามารถมองทะลุได้ถึงในดวงใจเธอเลยทีเดียว

และที่ไม่ธรรมดนั้นก็เป็นเพราะว่า

เอ็ดเวิร์ดเป็นมนุษย์ที่สามารถวิ่งได้เร็วกว่าเสือชีตาร์
เขาสามารถหยุดรถได้ด้วยมือเปล่า และอายุของเขาก็ไม่เพิ่มขึ้น

เลยตั้งแต่ปี ค.ศ. 1918
ใช่แล้วเขาคือแวมไพร์ และก็เหมือนกับแวมไพร์ทั่วไป "เขาเป็นอมตะ"

เพียงแต่ว่าเขาไม่มีเขี้ยวและไม่ดื่มเลือดมนุษย์ดังเช่นแวมไพร์ตัวอื่นๆ
ซึ่งการดำรงชีวิตของเขานั้นก็อยู่ได้ด้วยการล่าหมี

หรือล่าสิงโตภูเขาในป่าลึกเท่านั้น

สำหรับเอ็ดเวิร์ดแล้ว เบลล่าคือหญิงสาวที่เขารอคอยมากว่า 90 ปี
เธอเปรียบเสมือน "คู่แท้" ของเขา แต่ยิ่งเขาอยู่ใกล้เธอมากเท่าไใด
สัญชาตญาณดิบของเผ่าพันธ์แวมไพร์ ที่มีต่อเหยื่อซึ่งก็คือมนุษย์
ก็ยิ่งรุนแรงมากขึ้น และเรื่องมันก็ยิ่งเลวร้ายขึ้นไปอีก
เมื่อมีแวมไพร์นักล่าต่างถิ่นโผล่มา แล้วต้องการเลือดของเบลล่า
โลรอง (อีดี้ กาเทกี้) และวิคตอเรีย (ราเชล เลอเฟอริม)
เจมส์ (แคม จิแกนเด็ท) แวมไพร์นักแกะรอย ที่ชอบการล่า

ไม่มีทางที่เอ็ดเวิร์ดจะยอมให้เกิดขึ้น
ก็ลองดูสิว่ารักแท้ จะสามารถกุมชัยชนะให้เหนือทุกสิ่งได้หรือไม่
หรืว่ามันจะจบลงแบบโศกนาฎกรรมดังเช่นเรื่อง "โรมิโอ" และ "จูเลียต "



นิยายเรื่องนี้มี 5 เล่ม + 1 เล่มพิเศษ
ภาษาไทยเพิ่งแปลออกมา 3 เล่ม ของสนพ. ปราชญ์เปรียว

1- Twilight - แรกรัตติกาล

2- New Moon - นวจันทรา

3- Eclipse - ดาราสยุมพร

4- Breaking Dawn

5. Midnight Sun

ถ้าอยากรู้รายละเอียดหนังสือเพิ่มเติมก็เข้าไปดูที่

http://www.stepheniemeyer.com/

นวนิยายเรื่องดัง Twilight โดย สเตฟานี่ เมเยอร์
ถูกสร้างมาให้เป็นภาพยนตร์ได้ชมกันแล้ว
ด้วยกระแสความดังของนวนิยายดังกล่าวทำให้สเตฟานี่
ถูกกล่าวขานว่า เป็น เจ เค โลว์ริ่ง คนใหม่
โดยนวนิยายของเธอได้เล่าถึงเรื่องราวความรัก
ระหว่างมนุษย์และแวมไพร์ ที่สุดแสนโรแมนติก
ที่ทำให้ วัยรุ่นอเมริกาต้องซื้ออ่านกันทุกคน
และเมื่อได้ถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์แนวแอ็คชั่นระทึกขวัญ
ผลงานกำกับโดย แคทธาลีน ฮาร์ดวิค
ก็ได้เกิดปรากฏการณ์ที่ไม่คาดฝันขึ้นอย่างมากมาย
เมื่อพระเอกแวมไพร์ได้ถูกวางตัวให้เป็น โรเบิร์ต แพ๊ตทินสัน
จาก Harry Potter and the Goblet of Fire หนุ่มฮอตแห่งปี
ให้มารับบทเป็น เอ็ดเวิร์ด โดยมีคนเข้ามาคัดเลือกถึง 5,000 คน
และนางเอกหน้าสวยได้ถูกวางตัวให้เป็น คริสเทน สจ๊วต จาก Panic Room
และเขาทั้งสองได้ทำให้ภาพยนตร์เรื่อง Twilight
ได้รับการเซิร์ชหามากที่สุดตลอดกาลจากเว็บไซต์ imdb.com
และตัวอย่างภาพยนตร์ ได้รับการดาวน์โหลดกว่า 1.6 ล้านครั้งจากทาง yahoo
รวมถึงนวนิยายเล่มสุดท้ายได้ถูกวางขาย 1.3 ล้านเล่มภายใน 24 ชม.
ชนะแฮรี่พอตเตอร์ไปอย่างสวยงาม
และด้วยความแรงของ Twilight นี้เอง
ทำให้มีแววที่จะประสบความสำเร็จได้ไม่ยาก
ผู้อำนวยการสร้าง วิค ก๊อดเฟรย์ เลยประกาศสร้างภาคสองออกมาแล้ว

(เย้ เย้.. )

ความคิดเห็นส่วนตัว..
หยกชอบเรื่องนี้นะ..
เป็นอะไรที่ โรแมนติกมาก..
คือ ตอนแรกพระเอกพยายามไม่ยุ่งเกี่ยว
พยายามหลีกหนีนางเอกให้มากที่สุด
แต่เมื่อหนีไม่พ้น เลิกไม่ได้ ก็รักให้มันสุดขั้วไปเลย..555

ชอบตอน ดร. คลาสิส คัลเลน บอกว่า
เราปกป้องครอบครัวเรา
และเบลล่าก็คือคนในครอบครัว..
โอ้ว..ซึ้งมาก..

ตัวอย่างหนังตัดเฉพาะฉากที่ แอ๊คชั่น
ทำให้หลายคนคาดหวังว่า จะเป็นหนังแอ็คชั่น
เหมือนหนังแวมไพร์ทั่วไปก่อนหน้านี้
แต่จริงๆแล้ว มันไม่ใช่เลย..
หนังเดินเรื่องไปเรื่อยๆ
อาจเหมือนไม่มีอะไร

และอาจจะน่าเบื่อสำหรับคนที่ตั้งใจมาดูฉากมันส์ๆ
แต่สำหรับคอหนังโรแมนติกแล้ว..
..มันประทับใจมากมาย..

ทิ้งท้ายด้วย..

โปสเตอร์และภาพสวยๆจากหนัง..

ปัจฉิมลิขิต - กะว่า จะไปหาหนังสือมาอ่านดู

ตอนนี้ตั้งหน้าตั้งตารอ DVD
และตั้งใจว่า จะดูเรื่องนี้ กับที่รัก
ซักวัน..

New Haircut ^_^

ตัดผมแล้วก้าบ.. ^_^

ครั้งแรกในรอบ 6-7 ปี ที่ตัดผมสั้นจริงๆ ไม่ใช่แค่ตัดปลายออกเฉยๆ
ถ้าจำไม่ผิด พอจบม.6 ก็ไว้ผมยาวมาเรื่อยๆ
แล้วพอปี2 ก็ตัดผมสั้นอิกครั้ง
ช่วงคบกับแฟนคนแรก
ตอนนั้นกะแค่ว่า ตัดๆเล็มๆ แต่เกิดผิดพลาด กลายเป็นสั้นบ๊อบประมาณไหล่
แล้วแม่งเด๋อๆ ก็เลยไปตัด(แต่ง)อิกรอบ
ก็ไปอิกร้าน ให้เค้าซอยสไลด์ปลายออก
ก็เลยกลายเป็น ซอยสั้นไปเลย
ก็ชอบนะ ก็น่ารักดี (ความรู้สึกกุอ่ะนะ -_-‘ ก็กุชอบเน๊ะ)
ครั้งนั้นเป็นครั้งสุดท้ายที่ตัดผมสั้น

First time in a long long time (6-7years) that I cut my hair short, real short!
As I can remember since I graduated my high school, I always had long hair.
Then in the second year when I was in university, I cut my hair once.
I wanted just to trim my damaged hair off but there was a mistake,
they cut my hair shorter that I wanted. Oh oh!
So I decided to cut my hair short.
I’m kind of like it though. Cute! (I think! You have a problem?? –“-?)
It was the last time that I had a short hair.

แล้วหลังจากนั้นก็ปล่อยยาวไปเรื่อย
และไว้ผมยาวมาตลอด 5-6 ปี

After that I had kept wearing a long hair since in the last 5-6 years.

ช่วงที่ยาวที่สุด ก็คือ ช่วงปีืั้ที่เดวิดกลับไปแคนาดาครั้งแรก
ตอนนั้นยังไม่รู้ว่า เมื่อไรจะได้เจอกันอิก
ก็ตั้งใจกับตัวเองเล่นๆว่า จะไม่ตัดผมจนกว่าจะเจอกันอิก
แล้วปรากฏว่า ครั้งนั้นนานประมาณ ปีครึ่ง
ผมยาวเฟื้อยเลย พี่ที่ทำงานก็ทักว่า ผมยาวมากๆ
ตอนนั้นชอบผมตัวเองมาก

The longest hair I ever had was when the last time

that David left for his home first time.
We did not know when we could meet again yet.
So I decided to not cut my hair until I could meet him again,
Then it took one and a half year to meet each other again.
One and a half year that I did not cut my hair, not even a trim.
It was sooo..o..o long,

รูปก่อนตัด ไม่กี่วัน..
a few days before i cut my hair.


ถ่ายที่ ที่ทำงานใหม่..
at my the office of my new job




ถ่ายที่ห้อง
ลองทำท่าปลาทองดู ออกมาตลกอย่างที่เห็น เหอ เหอ..

my friends at the office also said my hair was so long.
I like it though.

ก่อนเดวิดกลับก็เลยได้ตัดผม หลังจากไว้มาปีกว่าๆ
ก็แค่เล็มปลายออก ให้สั้นขึ้นมาหน่อยแค่นั้น
และทุกครั้งที่เดวิดไป ช่วงที่รอก็จะไม่ตัดผม
จนกว่าจะเจอกันอิก และตัดอิกทีก่อนเค้ากลับ
แต่ก็แค่ตัดให้สั้นลง ไม่ได้ตัดให้สั้นเลย

After we met, before he left again and I had long hair for one and a half year
I had cut my hair again, well, just trimmed and made it shorter.
After that every time when I was waiting for him to come back,
I would not cut my hair until I could meet him again.

แต่คราวนี้ อารมณ์อยากเปลี่ยน(ว่ะ) แล้วด้วยเหตุที่ว่า
ปลายผมมันเสียมากๆ แห้ง ขาด แดง และแตกปลาย
ก็ถามเดวิดว่า ตัดสั้นดีมั้ย
ลุงแกก็ ตื่นเต้นใหญ่ เอาเลยๆ ยุส่ง
อยากมีแฟนเด็กลงไปอิกมั้ง กรั่กๆ
ก็ไปตัด สั้นเลยทีนี้

But this time, I felt that I needed to change with reasons that
My hair is so damaged
I asked David that I should cut my hair short or not.
He was so excited about that and agreed with me to cut it.. short.
So we went to the beauty shop together, after an hour I had my new haircut

ตอนออกจากร้านก็สวยดีล่ะ เพราะสระ ไดร์ รีด มาอย่างดี
พอกลับมาบ้านแล้วสระผมสิคับ
หายนะเกิด โอ้ว..ว..ว โนวววว..ว..ว
ก็เลยไปให้ไอ้พรยืดผมให้่เมื่อวีคก่อน (มันทำงานอยู่ร้านเสริมสวย)
ตอนนี้อะไรๆก็เิริ่มเข้าที่ละ สองอาทิตย์แล้ว
ก็เลยเริ่มชินกับผมทรงใหม่แล้ว (แต่ก็ยังสวอนอยู่ งืมๆ)


ก่อนยืด.. สวอนน่าดู.. -_-'

The first day I had my new haircut, It looked great.
Then after I had hair wash, it was a disaster!!
Oh..No!!!!! sob sob T_T

But now it looks ok, maybe I just get used to it. Hmm…

อันนี้หลังจากไปยืดมาแล้ว..
ค่อยพอดูได้หน่อย -__-'


ตอนนี้ก็รอจนกว่าจะเจอเดวิดอิกครั้ง
ไม่รู้ต้องรออิกนานแค่ไหน ผมจะยาวขนาดไหนก็ต้องรอดูกัน
แต่คุยกันไว้คร่าวๆก็ ปี ถึงปีครึ่ง กว่าจะกลับมาอิกครั้ง
กลับมาคราวหน้า คงมีการเปลี่ยนแปลงในชีวิดครั้งใหญ่ล่ะคราวนี้
เรื่องอะไร ยังไง แล้วจะบอกทีหลังนะจ๊ะ
ปีกว่าๆ รอกันไหวไหมเคอะ เพื่อนๆ??

From now on, I just wait to see my sweetheart David again
Although I don’t know how long it could be.
But we have talked (seriously) about our lives and
there will be a big change when he comes back next time.
What is that big change could be? I will tell you guys later :)
Just one year, can you wait, my friends?