.. เรื่องเล่าเล็กๆ ของถั่วลันเตาเขียวๆ..

นอกจากเรื่องเล่าต่างๆ รอบๆตัวเรา ที่หยกนำมาเล่าสู่กันฟังแล้ว

ก็ฟังเพลงเพราะๆ ความหมายดีๆ ประกอบไปด้วย..

คงช่วยให้วันหรือช่วงเวลาที่น่าเบื่อของคุณ ดีขึ้นบ้างล่ะ..เนาะ ^^


26.2.10

เก็บตกชีวิต..

จากที่เขียนเล่า ชีวประวัติตัวเองโดยย๊อ ย่อ ไป..
28 ปี สามตอนจบ ย่อมากๆ -_-'

จริงๆแต่ละช่วงชีวิต มีอะไรต่างๆ เกิดขึ้นมากมาย
ทั้งดีและร้าย..
แต่ก็เล่าได้ไม่หมด บ้างก็มีส่วนที่ไม่สามารถเล่าได้
บ้างก็ถ้าใส่ไป มันจะโดดๆกับที่เล่าอยู่

ก็เลยจัดเก็บตกมา เพิ่มเติม..

อะไรๆส่วนตัว..
- หยกชอบสีชมพู ดำ และขาว
แต่รักสีเขียวที่สุด รู้สึกว่า ชีวิตผูกพันธ์กับสีเขียวในหลายๆเรื่อง

- ตวัดลิ้น และพับลิ้นได้ (ยีนส์เด่น ฮ่าๆ)

-ไอ้หยกเจ้าชู้

- รักและชอบทำงานฝีมือทุกชนิด
Knitting, Crochet, Armigurumi, Scrapbook
Glass painting, Cross stitches and etc.

- นอนลืมตา ลายไหลบ่อยๆ และท้องชอบทำเสียงประหลาดๆ..
=__= น่าอับอายจริงๆ

-ระหว่างกินยา กับฉีดยา
ฉีดยาเหอะ กี่เข่็มว่ามา

-ไม่กลัวการไปหาหมอฟัน
ไม่อายเรื่องตรวจภายใน และเลือกตรวจกับหมอผู้ชายก้าบ..

- แพ้ของเย็น ก่อนกินต้องเป่าให้อุ่นก่อน ถึงจะกินได้

- ชอบทุกอย่างเกี่ยวกับวิปครีม

- ไม่ชอบ Pickles T_T

- กินได้ทุกอย่าง(แต่เลือกกิน) และ แพ้ของแพง

-ไม่รักเด็ก แต่อยากมีลูก

-ชอบดูหนัง และชอบดูคนเดียว
ชอบนั่งแถวริมสุดขวามือ
ไม่ชอบกินป็อบคอร์นหรือขนมในโรง
ปิดเสียงโทรศัพท์ทุกครั้ง แต่ไม่ปิดเครื่อง
(จะได้รู้ไงว่า มีใทรมีใครโทรมามั้ย แต่ก็ไม่รับไง)
ดูหนังได้หลากหลาย.. แต่ชอบพวกแฟนตาซี มากมาย

- เกลียดกิ๊กและเกลียดคนมีกิ๊กมากกว่า..
ตัวบ่อนทำลายครอบครัว..

- เห็นกะหร่องๆอย่างนี้ เล่นกีฬาได้หลายอย่างน๊า..
วอลเลย์บอล บาสเกตบอล ปิงปอง วิ่งระยะสั้น แฮนด์บอล แชร์บอล
วิ่งโทกเทกก็เป็นเน้อ (เดินไม้ไผ่ยาวๆน่ะ)

- สับไพ่ กรีดไพ่ แจกไฟแล่บ ทรัพย์ไม่เยอะ แต่ใจถึงนะเคอะ
(ไม่ได้เป็นเจ้า ก็เล่น 2ขาอัพ ฮา)
ยังมีหน้ามาอวด.. กร๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกก..
ขำๆน่ะคุณตำหนวด อย่าจริงจังน๊า.. (_ _')

-รักการถ่ายรูป ทั้งหน้ากล้อง และหลังเลนส์

- งานอดิเรกใหม่ ทำขนม(เค้ก)
ขยันทำ แต่ไม่ขยันกิน(เท่าไร)
งานตกที่คุณสามี..ฮา

-ติดรายการ Deal or No Deal, The Family Guys, 2 'n 1/2 men
Tyra's show, the biggest loser, ANTM, Bones, Ghost Whisperer

- รักการเขียนจม. การ์ด และโปสการ์ด

- ชอบฟังเพลง เขียนไดฯออนไลน์ อัพบล็อก ตอบกระทู้

- สาวก Avril Lavinge

- เข้าบ่อยๆ ก็
yahoo, hotmail
http://www.saranair.com/
www.thaiontario.com/webboard
www.usvisa4thai.com/board
http://sweetpea-yok.blogspot.com/

- msn เซต Away ไว้ตลอด
แต่ตัวน่ะ อยู่หน้าคอมตลอดล่ะ ทักมาเหอะ..
ถ้าทักมา แล้วไม่ตอบกลับก็คือ ไปอึ ไม่ก็ไม่อยากคุย..

- ชอบอยู่บ้าน ชอบอยู่คนเดียว ไม่ชอบสังคม(ไฮโซ)
แต่เวลาเจอเพื่อนก็เฮฮา สนุกสนาน

- ชอบตัดสินคน โดยแวบแรกที่เจอ ว่า ชอบ หรือไม่ชอบ
บ่อยครั้งที่ได้คุยด้วยหรือรู้จักแล้ว เปลี่ยนใจ

ชีวิตคู่..
- ช่วงที่หยกและเดวิดคบกัน ที่ไทย
ก่อนที่เค้าจะย้ายกลับมาเรียนต่อที่เมกา
เดวิดไม่เคยพูดคำว่า love เลย
จะใช้แค่คำว่า like เท่านั้น เพราะไม่อยากผูกพันธ์มากไป
1 อาทิตย์ก่อนเค้าย้าย เราไปเที่ยวส่งท้ายกันที่กระบี่
ก็แวะเข้าร้านเน็ต เพื่อเช็คอีเมลล์
หยกกับเค้านั่งคนละเครื่อง
แล้วก็ได้รับเมลล์จากเค้า ที่นั่งข้างๆว่า
..I love U..
เป็นครั้งแรกที่เค้าบอกรัก.. แต่ผ่านทางอีเมลล์ -_-'
เยี่ยมไปเลย..

-หยกเคยถามเดวิดว่า ยูเคยมีแฟนมากี่คน
เค้าก็บอก โอ้ย สี่สิบกว่าแล้ว นับไม่ไหวหรอก
เราก็เลยถามว่า แล้วเลิกกันเพราะอะไรล่ะ
เดวิดว่า ส่วนมาเพราะผู้หญิงเริ่มเรียกร้อง
ให้ปรับระดับความสัมพันธ์ให้จริงจังขึ้น
คือ แต่งงานน่ะ (โอ๊ะโอ..)
ซึ่งเค้าไม่เคยคิดเรื่องนี้ และไม่คิดจะแต่งงานเลย
เมื่อความเห็นไม่ตรงกัน เค้าก็เลยต้องเลิกกันไป
แต่สุดท้าย ก็มาเสร็จหญิงไทยใจงามอย่างเรา ฮา...

-เดวิดบอกว่า เค้ามีแฟนมาหลายคน
แต่หยกเป็นแฟนคนแรก ที่เค้ายอมให้ย้ายเข้ามาอยู่ด้วยกัน
(แฟนก่อนหน้านี้ อยู่บ้านใครบ้านมัน ออกเดทด้วย มาค้างบ้างบางครั้ง
แต่ไม่เคยย้ายเข้ามาอยู่ด้วยอย่างนี้)
เป็นคนแรกที่พาไปเที่ยว oversea (สิงคโปรค์น่ะ)

- เดวิดบอกไว้ก่อนแล้วว่า เรื่องลูก สำหรับเค้า คงยาก
เค้าไม่อยากมีลูก เพราะมีลูกเรื่องใหญ่ และไม่ชอบเด็ก
แต่หยกอยากมีลูก..กับเค้า แต่เมื่อเค้าไม่พร้อม เราก็ทำอะไรไม่ได้
แต่เมื่อวาน เค้ามา(คุกเข่า)กอดหยก
แล้วบอกว่า Don't give up on me..
เราก็งง เป็นอะไรเนี่ยลุง
เค้าเล่าว่า เค้าได้ยิน เจมี่อ่านหนังสือให้โรวันฟังชั้นบน
(คุณเจ้าของบ้านกับลูกชาย ขวบติ่งๆ น่ะ)
แล้วเค้ารู้สึกว่า.. อยากมีลูกขึ้นมา.. (ซะงั้น)
ไอ้หยกน้ำตาซึมเลย (เห็นความหวังลางๆ ฮ่าๆๆ)
เค้าบอก รอหน่อยๆ มีงาน มีเงิน แล้วคุยกันอีกที
ป่อย...
แต่ก็ดีที่ว่า ไม่ได้หมดหวังเลยทีเดียว T_T
(หยกเคยบอกเดวิดว่า ยูเอาสเปิร์มยู ฝากธนาคารไว้ได้มะ
เผื่อยูเป็นไรไป ไอจะได้มีแผนกันเหนียวไว้ กร๊ากกกก..)

-เดวิดอยากมีลูกสาว เพราะน่ารัก ขี้อ้อน
หยกอยากมีลูกชาย เพราะไม่ท้องก่อนแต่ง

-หยกได้ชื่อสำหรับลูกไว้แล้ว (เป็นเอามาก)
ซึ่งเดวิดเห็นด้วยและชอบมากๆ เพราะอ่านได้ทั้งไทยและเทศ
คงบอกไม่ได้ว่าชื่ออะไร ไว้มีโอกาศได้ใช้เมื่อไร คงได้รู้กัน (ขี้หวงนะนี่)
ลูกชาย จะขึ้นต้นด้วย T ลูกสาว กฌขึ้นต้นด้วย A

- หยกกะเดวิด กอดกันทุกวัน กอดจริง กอดเล่น กอดขำๆ ว่ากันไป
พักนี้กอดบ่อยหน่อย เพราะคุณสามีต้องการกำลังใจ..

- เดวิดเล่นกีฬาได้หลายอย่าง แต่ถนัดสุดก็ ฮอคกี้
เคยเป็นนักกีฬาประจำมหาลัย และเป็นโค้ชให้เด็กประถม (ว้าว..)
ตอนนี้เป็นโค้ชให้ศรีภรรเมียอยู่ เด็กโข่ง สอนยากหน่อย เหอ เหอ..

- กฏการซื้อบ้าน (ของคุณนายหยก)
ไม่ติดถนนใหญ่ ไม่ติดสนามบิน
ไม่ตรงทางแยก ไม่ติดมุมโค้ง
ไม่อยู่ตรงกลาง(กรณีทาวน์เฮ้าส์)
ไม่เอาสระว่ายน้ำ มีสวนหลังบ้าน
สองห้องนอนขึ้นไป ห้องน้ำเดียวไม่เอา
ครัวเปิด มีเค้าเตอร์กว้างพอ
ด้านนอกดูดี ด้านในโมเดิร์น
ใกล้ร้านฝีมือ (อย่าง Michaels) มีร้านขายกับข้าวเอเชีย
ไม่เคยมีประวัติ เพื่อนบ้านเป็นมิตร

แต่ราคาย่อมเยาว์... ฮิ้ววว...

- ตอนนี้คุณสามีร่อนใบสมัครงานแล้วจ้า..
เด๋วคงได้รู้ว่า ชีวิตนี้ สองคนตายาย จะได้ไปลงหลักปักฐานกันที่ไหน
หยกอยากให้ได้ที่แคนาดา หรือเมกา (หรือที่ไหนก็ได้ ที่มีหิมะ กุชอบหิมะ กั๊กๆๆ)
คุณสามีว่า ที่ไหนก็ได้ ที่เงินดีๆ ไม่มีหิมะยิ่งดีใหญ่ -__-'

- ปกติ หยกเรียกเดวิดว่า Honey
บางครั้งไปข้างนอกกัน หยกจะเรียกเดวิด ว่า Daddy
เดวิดจะหันมาทำหน้าตกใจ แต่ดูแล้วตลกดี

ยังมีอีกเยอะ
แต่ตอนนี้นึกได้แค่นี้แหล่ะ..

ต้องไปทำมื้อเย็นแล้ว..

24.2.10

คุณนายหยก..

ความเดิมตอนที่แล้ว..

เรียนจบได้งานทำที่ Kanary H.
ความสัมพันธ์กับแฟน เริ่มอ่อนลง..
..........................................................
เอ้าต่อๆ..

ตอนนี้รู้สึกเหมือน คนโสด
เพราะมีแฟน ก็เหมือนไม่มี -_-'
ไม่ได้เจอ ไม่ได้คุย
ไม่ได้รู้ข่าวคราวของแต่ละฝ่ายร่วมปี.. -"-

ก็เริ่มมีคนมาจีบบ้าง ประปราย..
เพราะตอนนี้สิ่งแวดล้อม คือ ชาวต่างชาติ
ผู้ชายที่เข้ามา ก็ อิมพอร์ตทั้งนั้น.. (_ _')

เริ่มแรก อิตาลี ก่อนเลย
หล่อนะ แก้มเเดง ก้นงอน แต่เตี้ยไปหน่อย
พูดอังกฤษก็ สำเนียงอิตาลี ฟังยากไป
ผ่านๆ.. (-.,-)

คนที่สองนี่ เมกัน
ไม่ได้พักที่ Kanary แต่มากินข้าวที่ Orchard Rest.
แล้วก็เดินเข้ามาสอบถามราคาห้องพัก แพคเกจต่างๆ
เราก็อธิบายไป..
แล้วเค้าก็โพล่งภาษาไทยออกมา
เราก็ เฮ้..พูดไทยได้นี่ จ๋าเลย..
เค้าก็ว่า จริงๆไม่ได้สนใจห้องพักที่นี่หรอก
แต่มากินข้าวแล้วเห็นเรา ก็เลยเข้ามาคุย
ออกแนว เพลย์บอยหน่อยๆ
ยอมรับนะว่า หล่อ ปากหวาน อายุไม่มาก (สามสิบต้นๆ)
เป็นอาจารย์อยูเอแบค สอนเสริมที่ จุฬาฯด้วย
แต่เดทด้วยกัน สองสามครั้ง ก็บายๆ
ปากหวาน มือไว ไม่ไหวๆ..
ขืนคบไป มีหวังต้องระแวงเรื่องสาวๆแน่.. T^T

แล้วก็มาถึง มิสเตอร์ห้อง 1007
คนนี้มาเรียบๆ เนียนๆ
มาที่Front แล้วก็บ่นว่า ตู้จม.ล็อคไม่ได้
เราก็เดินไปดูกับเค้า คุยกันไปด้วย
แล้วเค้าก็โพล่งมา เฮ้ พูดภาษาอังกฤษได้นี่
เราก็ เอ๊ะในใจ พูดไม่ได้ ตูจะได้งานที่นี่หรอ(ฟ๊ะ)

วันหนึ่ง เค้าจะไปเที่ยวลาว
ก็แวะมาแจ้งว่าจะไม่อยู่ และขอชื่อทุกคน
เพราะจะเขียนโปสการ์ดส่งมาให้

อาทิตย์หนึ่งต่อมา หยกและทุกคนก็ได้โปสการ์ดจากเค้า

Image Hosted by ImageShack.us
Image Hosted by ImageShack.us

เป็นโปสการ์ดใบแรกที่ได้ในชีวิต
และเป็นจุดเริ่มต้นของเราสองคน..

แต่ระหว่างที่หยกทำงานที่นั่น
ไม่มีอะไรมากกว่า ลูกค้าและพนักงานเลย
(เคยเข้าไปห้องเค้าครั้งหนึ่ง
แต่ไปเช็คถังแก๊ส กับช่าง น่ะ)

พอทำงานได้ครบปี หยกก็ได้งานใหม่ ที่ AllSeasonsPlace
ส่วนเดวิด ก็ย้ายออกไปเช่าคอนโดอยู่

หยกกับเดวิดห่างกันไปซักพัก
แต่แล้วก็ได้กลับมาพบกันอีก

เพราะไม่อยากให้เราไปๆมาๆ ระหว่างห้องเค้ากับห้องเรา
เค้าก็ชวนมาอยู่ด้วยกันที่คอนโด

ตอนเริ่มคบกันนั้น เค้าบอกเราไว้ก่อนแล้วว่า
เค้าต้องย้ายไปเมกาในอีกไม่กี่เดือน
และไม่รู้ว่า เมื่อไรจะได้กลับมาพบกัน
หรือความสัมพันธ์จะเป็นไงต่อไป??
นอกจากนี้ เราและเค้าก็อายุห่างกันมาก
ตอนคบกันนี่ หยก 22 เค้า 42
ก็ห่างกัน 20ปีพอดีเป๊ะๆ
อีกทั้งยังแจงด้วยว่า เค้าไม่สนใจที่จะ
มีครอบครัว หรือแต่งงานนะ..

แต่เราก็ยังยืนยันว่า จะลองคบกันดู..

ผ่านไป..ทุกอย่างเป็นไปได้ดี..
คบกันได้ ไม่มีปัญหา

จะกระทั่งถึงวันที่เค้าต้องย้ายจริงๆ
ก็ไปส่งเค้าที่สนามบินดอนเมือง
(ตอนนั้น สุวรรณภูมิยังไม่เปิดใช้)
ตอนลากัน หยกสัญญาว่า จะรอเค้า
เค้าก็บอกอย่าสัญญา เพราะไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นไง
แต่เราก็ยังยืนยัน ว่าจะรอ

ร้องไห้..

จำไม่ได้ว่าเคยร้องไห้หนักขนาดนี้ครั้งสุดท้ายเมื่อไร

หยกกับเค้าก็ยังคงติดต่อกันเรื่อยๆ
เหมือนคู่อื่นๆ คือ แชท อีเมลล์ และโทรศัพท์
แต่พิเศษกว่านั้นคือ เรามักจะส่งการ์ด จม. และโปสการ์ด
หากันเสมอ ตลอด 4ปีที่ห่างกัน (จม.เป็นกล่องๆ)

ตอนแรกก็คิดเหมือนกันว่า จะไปรอดมั้ย
เพราะรักครั้งแรกไปไม่รอดเพราะห่างกัน
แค่พิจิตรกับบางกอกยังไม่รอด
แล้วนี่ ไทยแลนด์กับเมกา ครึ่งโลกเชียวหนา.. -_-'

ปีแรก เค้าให้หยกลองขอวีซ่ามาเที่ยวแคนาดาดู
แต่ก็ถูกปฏิเสธ ทำไรไม่ได้เลย นอกจากร้องไห้ -_-'

เค้ามาหาหยกปีละครั้ง..
ทุกครั้งที่มา ก็จะไปเที่ยวด้วยกัน

ระหว่างที่อยู่ห่างกันนี้
หยกปิดตัวเองสนิทเลย คือ ตัวคนเดียวจริงๆ
ไปดูหนัง ซื้อของ หรือทำอะไร
ก็จะไปคนเดียวเสมอ เพื่อนก็ไม่ชวนให้ไปด้วย
(แต่ยังมีเพื่อนอยู่น๊า ยังโทรคุยบ้าง เจอกันบ้าง)
และค้นพบว่า การไปดูหนังคนเดียวนี่ ดีที่สุด
(ใครไม่เคยไปดูหนังคนเดียว ต้องลองดูค่ะ
เลือกที่นั่ง ด้านนอกริมสุดเลยนะ
เพราะส่วนมากจะไม่ต้องนั่งติดกับใคร)

จนเมือปี 52 แชทกันอยู่ดีๆ เค้าก็เกิดไอเดียว่า
ลองขอวีซ่ามาอยู่เมกากับเค้ามั้ย
เพราะเป็นปีสุดท้ายแล้วที่เค้าจะเรียนที่นี่
เราก็งง แล้วตูจะไปได้ไง แคนาดายังไปไม่ได้เลย
เค้าก็ว่า ก็แอดชื่อ เป็น คู่สมรสไง
เราก็ว่า ยิ่งไม่ได้ใหญ่ ยังไม่ได้แต่งงานกันเลย
แล้วก็นึกได้..
เด๋วนะ นี่กะลังขอเราแต่งงานอยู่หรือเปล่า?

แล้วโทรศัพท์ก็ดัง พอเรารับสาย
ก็ได้ยินเสียงเค้าพูดผ่านมา..

"Wipawadee..Will you marry me?"

O_________o..

yes! TT_TT
(รีบตอบๆ เด๋วเค้าเปลี่ยนใจ ฮ่าๆ)

ระหว่างรอคุณว่าที่สามีกลับมาเรื่องแต่ง
หยกก็เตรียมเอกสารและศึกษาเกี่ยวกับวีซ่า
ที่เราต้องดำเนินการขอ
สรุป หยกต้องขอวีซ่า F2 คือ วีซ่าติดตามคู่สมรสนักเรียน
(วีซ่านี้ เค้าห้ามทำงานนะจ๊ะ ผิด กม.
เพราะฉะนั้น นี่เป็นเหตุผลที่ว่า ทำไมไม่หางานทำ)

16 มิถุนา 52 เค้าก็กลับมาไทยอีกครั้ง
เดินเรื่องเตรียมเอกสารอยู่ 2วัน

19 มิถุนา 52 จดทะเบียนสมรสที่ สนข.พระโขนง
ทุกอย่างเป็นไปด้วยดี

แล้วหยกก็กลับมาสระบุรี เพื่อเปลี่ยนคำนำหน้า เป็นนาง
และนามสกุลตามสามี และตั้งชื่อกลาง เก็บสกุลเก่าน่ะ
ทำบัตรประชาชนใหม่ (รูปสวยถูกใจ)
ตอนนี้ ชื่อยาวมากๆ

22 มิถุนา 52 กลับไปทำหนังสือเดินทางเล่มใหม่
ทำที่เซนทรัลบางนา เป็นอะไรที่ง่าย ไว และสะดวกมากๆ
เจ้าหน้าที่ก็เป็นกันเอง ให้หยกเลือกรูปได้จนกว่าจะพอใจ
(รูปออกมาสวยถูกใจอีกแล้ว เย้ๆ)

7 กค 52 ไปสัมภาษณ์วีซ่าสหรัฐ
ใจตุ๊มๆต่อมๆ เพราะเพิ่งแต่งงานกันได้ไม่กี่วัน
งานแต่งก็(ยัง)ไม่มี
แล้วมายื่นขอวีซ่า จะรอดมั้ยเนี่ยตู
แต่ก็ผ่านไปได้ด้วยดีค่ะ
เจ้าหน้าที่ถามหลายคำถาม
ประมาณว่า สามีเรียนอะไร เจอกันได้ยังไง
เค้าทำวิจัยอะไร เราก็ตอบๆไป
แล้วเค้าก็ยึดพาสปอร์ตเราไว้
บอกว่า จะส่งวีซ่าให้ภายในสามวัน
ดีใจ T_T

26 กรกฏา 52 จัดงานแต่งงานที่สระบุรี
มี่พี่สาวเดวิด และเพื่อนๆและลูกๆ รวม 10 คน
Image Hosted by ImageShack.us

Image Hosted by ImageShack.us


Image Hosted by ImageShack.us

Image Hosted by ImageShack.us

27 กค -1 สค 52 ฮันนีมูนที่เกาะสมุย
หยก เดวิด พี่สาวและสามี และเพื่อนอีก1คู่
Image Hosted by ImageShack.us

Image Hosted by ImageShack.us

กลับมาจากฮันนีมูน พี่สาวและเพื่อนเค้า ก็กลับไปหมดแล้ว
หยกก็มาเตรียมขอวีซ่าแคนาดาอีก

3-4 สค 52 หยกไปยื่นและสัมภาษณ์วีซ่าแคนาดา
ขอไปแบบ Multiple ก็กลัวเหมือนกัน เพราะเคยถูกปฏิเสธมา
คุณสามีไปเป็นเพื่อนด้วย ก็นั่งรอเค้าเรียก
แล้วเค้าก็เรียกชื่อเรา ให้ไปรับพาสปอร์ต
รับมา เปิดดู ก็รู้ว่าได้วีซ่า โดยที่ไม่ต้องสัมภาษณ์ใดๆ
ดีใจ.. T__T

ช่วงนี้ หยกก็เดินสายเจอเพื่อนๆ ร่ำลากันไป
แล้วก็กลับไปอยู่บ้านซัก 2-3วัน อยู่กับครอบครัว

10 สค 52 เดินทางมามิชิแกน สหรัฐอเมริกา
ไม่มีใครมาส่งทั้งนั้น น่าเศร้าเหมือนกัน ฮือๆ
จริงๆแล้ว ไม่ให้ใครมาส่งเอง เพราะรู้สึกว่าดีกว่า
ถ้ามีใครมาส่ง จะรู้สึกเศร้าเปล่าๆ
การเดินทางครั้งนี้ รู้สึกว่า แค่ไปเที่ยว เหมือนทุกครั้ง
เพียงแต่ว่าไปไกล และนานหน่อย แค่นั้นเอง
ก็เลยชิวๆ ไม่ได้โศกอะไรมากมาย
Image Hosted by ImageShack.us

10-12 สค 52 แลนซิ่ง
Image Hosted by ImageShack.us
ถนนหน้าบ้าน..

Image Hosted by ImageShack.us
มาแรกๆ ยังปรับตัวไม่ได้ นอนดึกและหนาวตลอด..

13 สค 52 เดินทางเข้าแคนาดา เพื่อพบครอบครัวเดวิด ครั้งแรก
ขับรถจากแลนซิ่งไปสอนดอน ใช้เวลาประมาณ 3-4ชม เท่านั้น
Image Hosted by ImageShack.us
ครั้งที่ได้พบกัน หลังจากรอมา 4-5ปี

หลังจากนั้นก็ ไป-มา ระหว่าง เมกาและแคนาดา เรื่อยๆ
แต่ช่วงนี้คงไม่ได้ไปอีกนาน
เพราะคุณสามี ต้องเร่งเขียนงานวิจัยให้เสร็จ
แล้วก็ต้องหางานไปด้วย..

ส่วนหยกมาอยู่เมกาได้ 6 เดิอนแล้ว
ปรับตัวแล้ว และได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆที่นี่มากมาย
ปกติก็จะอยู่บ้าน ทำงานบ้าน ทำกับข้าว ทำขนม
ถักนิตติ้ง โครเชรต์ และเล่นเน็ตไปตามประสา


มาอยู่นี่ 6 เดือน ยังไม่เคยร้องไห้เพราะเหงา เบื่อ
หรือคิดถึงบ้านเลยซักครั้ง
อาจเพราะเคยชินกับการอยู่ห่างบ้าน
เคยชินกับการอยู่คนเดียวมั้ง ซึ่งก็เป็นข้อดีไป
(คุณสามีเค้าก็กลัวนะ ว่าเราจะเหงา จะเบื่อ
เพราะเค้าทำแต่งานๆๆ แต่เราเฉยๆ ไม่ได้รู้สึกเศร้าอะไรซักนิด)
Image Hosted by ImageShack.us
ไม่ได้เหงาเลย.. (ที่ Gravenhurst, CA สวยมากๆ)

แต่ก็ไม่ได้หายเงียบไม่ติดต่อกับที่บ้านเลยนะ
หยกก็ยังคุย และติดต่อกับที่บ้านและเพื่อนๆอยู่เรื่อย
ก็ผ่าน จม. โปสการ์ด MSN และ Video chat น่ะล่ะ

ขอบคุณเทคโนโลยีทุกวันนี้ ที่ทำให้ครึ่งโลก
อยู่ใกล้กันแค่หน้าจอ.. :)

ตอนนี้ชีวิตเปลี่ยนไปเยอะ..
ไม่เคยคิด(แต่หวัง)ว่าจะได้ขึ้นเครื่องบิน ก็ได้บินซะสะใจ
ไม่เคยคิดหรือพิศวาสที่จะมาเมกา ก็ได้มา(อยู่)เสียนี่
Image Hosted by ImageShack.us

ไม่เคยคิด(แต่หวัง)ว่าจะได้เจอหิมะจริงๆ ก็ได้เล่นซะ แทบอ้วก..
Image Hosted by ImageShack.us

ไม่เคยคิด(แต่หวัง)ว่าจะได้รักกับฝรั่ง ก็ได้มาครอบครองสมใจ (ฮา..)
Image Hosted by ImageShack.us
ไม่เคยคิดว่า จะมั่นคง กับรักระยะไกลได้ เพราะเคยส้มเหลวมาแล้ว
ไม่เคยคิด(แต่หวัง)ว่า จะมีวันนี้ กับคนๆนี้.. (จริงๆนะ)

จากนี้ไป ยังมีอะไรเปลี่ยนแปลงอีกเยอะ
เพียงแต่ไม่รู้ว่า มันจะเปลี่ยนไปทางไหน
เท่านั้นเอง..



ขอบคุณที่ติดตามอ่านจ้า..


ปล.ยังมีเก็บตกให้อ่านอีกนะ
รอหน่อย..

นางสาวหยก..

ความเดิมจากตอนที่แล้ว..
หยกและเพื่อนๆ เข้าเรียนที่ม.ราม
เช่าหอพักอยู่ด้วยกันที่ รามฯ2..
..............................................................
ต่อๆ..

เทอมแรก เกรดออกมาดี จนหน้าบาน
คือ ลงไป 7 ตัว ได้ G มา4 ไม่ตกเลย
นี่ขนาดชิวๆ เรียนๆเล่นๆ ยังได้ดีขนาดนี้
ก็เลยฮึด ตั้งใจเรียนมากขึ้น
แล้วเกรดก็ออกมาดีขี้นเรื่อยๆๆ ก็ยิ่งภูมิใจ..


ปีแรกในรั้วมหาลัย เริ่มไว้ผมยาวอีกครั้ง
(หลังจากนั้นก็ปล่อยยาวตลอด)

Image Hosted by ImageShack.us
รูปตอนนี้ดูอ้วนนะ แก้มออกแลยอ่ะ..

พอปี2 ก็ย้ายออกมาเช่าหอพัก หน้ารามฯ1
คราวนี้พักหอพักรวม..
สนุกเลยคราวนี้.. แต่ละคนก็มีผู้ชายเริ่มเข้ามาเรื่อยๆ
เพื่อนๆก็มีเสียศูนย์กันไปบ้าง..

แต่หยกยังเรื่อยๆ ไม่ได้ตกลงกับใครแน่นอน
ได้เพื่อนอุ๋มเป็น McAfee+Nod สแกนให้หมด
ไม่ผ่านซักคน ฮ่าๆๆ เลยไม่ได้คบใคร T_T

แล้วเรื่องก็เกิด คือ เพื่อนเรามีคนมาจีบ
แล้วเพื่อนคนที่มาจีบก็ได้คุยกับหยก
แล้วเค้ารู้สึกว่า เฮ้ย..โอเลย ชอบๆ
แต่เค้าไม่ได้ชอบเรานะ
แต่ชอบที่ว่า คือ อยากให้เราลองเจอเพื่อนเค้าอีกที
หลายต่อมากๆ..

แล้วก็ได้เจอกัน..
เราก็ เออ.. น่ารักดีว่ะ ที่สำคัญ สูงกว่าเรา

พูดถึงเรื่องความสูง มีเรื่องอยู่ว่า..
หยกนั่งอ่านหนังสืออยู่ในห้องสมุด
แล้วก็มีผู้ชายเข้ามาคุยด้วย ก็จีบน่ะล่ะ
แล้วทีนี้ พอเราลุกขึ้นยืนเท่านั้นล่ะ
ถึงได้รู้ว่า เราสูงกว่า..เยอะเลย
เค้าก็หน้าเสียไปเลย ประมาณว่า เสียหน้าเหมือนกัน
ฮ่าๆๆๆ (ฮือๆๆ T_T )
บอยอ่ะ จำได้ป่ะ? ฮ่าๆๆ

กลับมาที่ คุณคนนั้น..
ก็นัดเจอกัน คุยกันนิดหน่อย ก็แยกกันไป
ไม่ได้เจอกันเลย..
เวลาเราเจอคนที่แนะนำให้รู้จัก ก็จะถามว่าา มาคนเดียวหรอ
ความหมายคือ ไอ้หล่อนั่นไม่มาด้วยหรอ กุอยากเจอ ฮ่าๆๆ

เค้าคงรู้แหล่ะ เลยนัดให้เจอกันอีก..
แล้วไปไงมาไงไม่รู้ ก็เลยได้คบกัน
ฮา...

(มารู้ทีหลังว่า ไอ้หล่อนี่ก็ สนใจเราเหมือนกัน
เพราะเค้าก็คุยกับเพื่อนเหมือนกันว่า ลองคบดูดีมั้ย?
เพราะเค้าไม่เคยมีแฟนเหมือนกัน ไม่รู้ต้องทำไง ฮ่าๆ)

ก็คบกันไปค่ะ..
Image Hosted by ImageShack.us
ตอนสาวๆนี่ กุน่ารักดีนะ.. ฮ่าๆๆ

Image Hosted by ImageShack.us
ไปเที่ยวสวนหลวงร.๙ กัน เค้าเป็นคนถ่ายให้..

รู้สึกว่า หยกจะเริ่มคบกันตอนปลายๆปี 2
ก็ไปกันได้ดีนะ ไม่เคยทำเลาะกันเลยซักครั้งเดียว
แต่ไม่รู้ทำไม เราร้องไห้บ่อยเหมือนกัน
(จนอีเพื่อนอุ๋ม ด่าแล้วด่าอีก ฮ่าๆ)

ปี 46 หยกก็จบ รับปริญญา

ใช้เวลา สามปี (ไม่เต็ม) เกรดเฉลี่ย 3.10
ไม่เคยตก ไม่เคยซ่อม ได้เรียนฟรีหนึ่งเทอม
(ลงเรียน 7วิชา ได้ G 6ตัวน่ะ)
รวมแล้วจ่ายค่าลงทะเบียนเรียนตั้งแต่เทอมแรก
จนกระทั้งจบ จ่ายไปแค่ หมื่นเดียวเท่านั้น
ถือว่า ถูกมากๆๆ
เสียดายแค่ว่า ขาด G ไปเพียงตัวเดียว
ไม่งั้นก็ได้ เกียรตินิยมอันดับสองแล้ว
(ถ้าไม่เสียศูนย์เรื่องผู้ชาย ฮ่าๆๆ)

Image Hosted by ImageShack.us
ถ่ายที่นครนายก บ้านพ่อใหญ่ แม่ใหญ่

วันรับปริญญาเป็นอะไรที่ ชิวๆมาก
แต่งหน้า(ส่งๆ)เอง ทำผม(ส่งๆ)เอง
เพราะรู้สึกว่า เออ เราเสียค่าเล่าเรียนไปเยอะแล้วนะ
แค่ค่าชุดครุย และค่ารูปตอนรับ นี่ก็หลายพันแล้ว
ก็พอแล้ว..
Image Hosted by ImageShack.us
พอเรียนจบ เพื่อนๆก็แยกย้ายกันไป
บ้างก็ได้งานที่สระบุรี บ้างก็ย้ายไปอยู่ใกล้ๆที่ทำงาน

หยกเรียนจบ ก็ได้งานทำที่ Kanary House
(ตอนนี้เปลี่ยนชื่อเป็น Kantary House) แล้ว

Image Hosted by ImageShack.us
สังเกต สูงปรี๊ดมากๆ.. หน้าจืดสุดๆ
ในบรรดารีเซฟชั่นทั้งหมดเนี่ย หยกเป็นลูกเป็ดขี้เหร่เลยล่ะ
(เจ้าเดียร์ ตัวเล็กเนี่ย น่ารักสุดๆ)

Kanary House เป็น Serviced Apartment
ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่ เป็นชาวต่างชาติ แต่ที่ไม่เหมือน รร. ทั่วไป
คือลูกค้าจะอยู่กันเป็น เดือน หรือเป็นปีๆ
ก็จะจำได้หมดว่าใครชื่ออะไร อยู่ห้องไหน
ทำงานที่ไหน ซื้อแพคเกจอะไร
(คือ รับเซอร์วิซอะไร อย่าง ซัก อบ รีด ผ้า อาหาร ฯลฯ)
และค่าเช่าแพงอยู่..

หยกทำงานที่นี่ได้ไม่กี่เดือน
คุณแฟนตอนนั้น กลับไปบวชที่บ้านเกิด ที่พิจิตร
จะโทรคุยกันบ่อยๆก็ไม่ได้ เพราะมันไม่เหมาะ

ก็อยู่ห่างกันไป ไม่ได้เจอกันเกือบปี ไม่ได้โทรคุยกันเลย
แรกๆก็เศร้านะ คนเคยอยู่ด้วยกันตลอด
แล้วมาห่างกันแบบปุปปัป
แต่ด้วยเพราะงานที่ทำยุ่งมากๆ ก็เลยหายเหงาไป
ก็เลยห่าง จนหายกันไปเลย..

อ้อ ที่ทำงานเค้าจะทำโบรชัวร์ และเวปไซต์
ก็เลยมีการถ่ายรูปต่างๆลงเวป ก็ใช้สตาฟน่ะล่ะ ไม่เสียตังค์
Image Hosted by ImageShack.us
นั่นหยกเอง..นะ เห็นไม่ชัด แต่หยกจริงๆ :)

ตอนนั้น หยกก็เริ่มมีคนมาจีบอีกแล้ว
คราวนี้ฝรั่งทั้งนั้น.. -_-'
ทั้งลูกค้า ทั้งเพื่อนลูกค้า..



โอ้ว.. นางสาวหยก เริ่มโกอินเตอร์ ฮ่าๆๆ

ติดตามตอนต่อไป..
คุณนายหยก

เด็กหญิงหยก..

เด็กหญิงหยก.. หรือชื่อทางการ ด.ญ.วิภาวดี
เกิดวันพุธ ที่๑๗ เดือน๔ ปีระกา (มีนาคม พ.ศ. ๒๕๒๕)
ถ้าเกิดหลังปีไหม่ไทย(เมษายน) ก็จะนับเป็นปีจอ
ที่ รพ.หนองแค เวลา เที่ยงคืน ๔๕ นาที

แม่ตั้งชื่อ วิภาวดี เพราะให้ชื่อลงท้ายเหมือนกัน
แม่ชื่อยุวดี พี่สาวชื่อจิตรวดี

ช่วงนั้น หนังจีนเรื่องมังการหยก กำลังดังมาก
และแม่ชอบมากมาย..
อีพี่สาวชื่อ หยงยี้ อีคนน้องเลยได้ชื่อ หงส์หยก ไป

หยกมีพี่น้องรวมสายสะดือ 3 คน
หยงยี้ หงส์หยก และ อึ้งย้ง แต่เรียกกันติดปากว่า พร มากกว่า
(ไอ้พรชื่อสุภาพร แต่ตอนนี้เปลี่ยนเป็น ฐิมาพร แล้ว)

สามใบเถา ก็ ยี้ หยก พร..
Image Hosted by ImageShack.us
หยกหัวเม่งๆ ส่วนไอ้พรยังขดอยู่ในท้องอยู่เลย..

เพราะหยกกะยี้ เกิดไล่ๆกัน ก็เลยโตมาทันๆกัน
หลายๆคนบางครั้งก็นึกว่า เป็นฝาแฝดกัน
แต่พอเริ่มโตมากขึ้น ความต่างกัน ก็เห็นได้มากขึ้น


เด็กดอย..


รักกันๆ สังเกต.. ไอ้ยี้เกงในย้วยได้ใจ กร๊ากกกกกกก..
(ตุ้ยนุ้ยนั่น ลูกพี่ลูกน้องหยกเอง
มันป่อง แล้วแต่งปาดหน้าเราไปก่อน เดือนหนึ่ง ชิๆ
แต่เจ้าบ่าวเรา หล่อกว่า กร๊ากกกกกก... )


ตอนเด็กๆ หยกดูไม่ค่อยผอมเท่าไรนะ..

ยอมรับว่า ไอ้ยี้หน้าตาน่ารักกว่า (ชิๆ)
ตอนเด็กๆ หยกขี้เหร่ (ตาจะโตๆ เหลือกๆหน่อย ฮ่าๆ)

ฟันดำ ยังกล้ายิ้ม.. -_-'
พรจะห่างหน่อย ประมาณ 3 ปี
ไอ้พรนี่ จะดำสุดในพี่น้องสามคน (ไอ้ยี้ขาวสุด)

ตอนเด็ก เป็นนักล่าเวทีเหมือนกันนะ..
พ่อแม่ดันสุดๆ..
Image Hosted by ImageShack.us
นี่ หยกเอง.. ปากแดงได้ใจ..

Image Hosted by ImageShack.us
ส่ายเข้าลูก.. เกิดมาเพื่อฆ่าเกิลลี่เบอร์รี่ โดยเฉพาะ ฮ่าๆๆ..
(คนข้างๆนี่ เพื่อนยี้มัน ตอนนี้ได้สามีเมกัน มาอยู่ เมกาจะสิบปีละ
ก็คุยกับหยกอยู่เรื่อยๆ เมียฝรั่งเหมือนกัน ฮ่าๆๆ)


สุดท้ายก็ได้รางวัลมา..
(จริงๆเค้าให้คะแนน โดยนับจากลูกโป่ง
ที่ขายเพื่อการกุศล
พ่อเพยซัดไปซะ หลายร้อย.. ชนะเลย ฮ่าๆ)

กิจกรรมประจำวัน ของสามพี่น้อง คือ ตบตีกันอย่างสนุกสนาน..
(หยกเคยถีบไอ้พรตกเตียงมาแล้ว โดนแม่ซัดซะ..)

ไอ้ยี้กับไอ้พรเค้าเล่นกันน่ะ.. น่าร๊ากกกกกกก..

เราสามคน ย้าย รร. บ่อยมากๆ ไม่ได้ย้ายบ้านไปไหน
แต่ย้าย รร. เป็นว่าเล่น.. สนุกแม่เค้าล่ะ -_-'

รร.แรก ก็ รร. วัดหนองหมูใต้
เดินข้ามคลองไป ก็ถึงแล้ว

แม่บอกว่า ตอนเด็กๆ ร้องไห้ตามไอ้ยี้ไป รร.
เด็กขี้มูก ขี้ตาไหล เกาะชายเสื้อไอ้ยี้เดินไป รร.
โดนซ้ำชั้นครั้งแรก ตอนอนุบาล เพราะอายุไม่ถึงเกณท์
ไม่เป็นไร ถือเป็นกำไรชีวิตไป..

สามคนพี่น้อง การเรียนดี ระดับชั้นแนวหน้า
เกรดสี่ตลอด..

วันหนึ่ง เด็กหญิงหยก (ป.1-2) เลิกเรียนแล้วตามไปเล่นบ้านเพื่อน
อีแม่ไม่รู้ หากันใหญ่ ลูกกุหายไปไหน มืดเล้วไม่กลับบ้าน
กลับมา โดนซะ.. ตูดลาย..

แล้วก็ย้ายไปเรียน รร. ในอำเภอ

รร. วัดวิหารแดง ป. 3-5

ม.ต้น หลุดไป รร. คาทอลิก 3-4 ปี ที่นครนายก
สนุกดี รร.นี้ เครื่องแบบสวย แขนยาว โบว์น้ำเงิน
และไว้ผมยาวได้ด้วย แต่ต้องถักเปีย
หยกก็ ไว้ๆตัดๆ.. แล้วแต่อารมณ์
Image Hosted by ImageShack.us
ไปเที่ยวกับ รร. ที่หัวหิน ปัจฉิมนิเทศ คือ เที่ยวส่งท้ายน่ะ
เทอมสุดท้ายแล้ว.. น้ำหูน้ำตาไหลกันไป..

หลังจากจบม.3 ไอ้ยี้เลือกเรียนต่อสายอาชีพ
ที่วิทยาลัยในนครนายก (บัญชี)
ส่วนหยกเลือกเรียนต่อสายสามัญ คือ ม.ปลาย ที่รร.ประจำจังหวัดสระบุรี
(โชคดีไม่ต้องสอบ เกรดเฉลี่ยผ่าน เลยได้เข้าเรียน สบายๆ)
ส่วนไอ้พร ต่อ ม.ปลาย ได้ที่ รร.ประจำจังหวัด นครนายก


หยกกับเพื่อน /8 รร. สระบุรีวิทยาคม จัดงานปีใหม่ ที่ห้อง

Image Hosted by ImageShack.us
เรียนๆเล่นๆไปเรื่อยๆ
อารมณ์ดีๆ เหรียญเยอะๆ ก็ ทำกิจกรรมกระชับมิตรกับเพื่อน
ใจถึง เงินมี ก็ เป็นเจ้ากันไป ตาละบาท กี่ขา ว่ามา..
ไม่เล่น เมิงไปดูต้นทางเลย.. ฮ่าๆๆ
ไม่วงไพ่ ก็วงตะกร้อ..
กระปรงกระโปรง ไม่เป็นอุปสรรค
อาศัยใส่เกงใน น่ารักหน่อย ขาบานเก็บไว้บ้าน เอาไว้ใส่นอน..

เรื่องหนุ่มๆ ก็มีบ้าง พอเป็นกระสัย
ป้าหยก ไปหลงเด็กอยู่พัก (เด็ก ม.ต้น)
เสือกไปชอบฝาแฝดอีก เลือกไม่ได้
ว่าพี่หรือน้องดี เพราะหน้าแม่งเหมือนกัน
สุดท้ายก็แห้ว เพราะเด็กไม่ยอมให้กิน ฮ่าๆ
ไม่เป็นไร ป้าแค่เล่นเหมือนกัน แค่เล่นๆจริงๆ T_T

Image Hosted by ImageShack.us
รร. มีนโยบายให้ไว้ผมยาวได้ ตอนหยกอยู่ม.6 แล้ว
แต่หยกก็ไม่ได้ไว้หรอก เพราะรู้สึกว่า ไม่เหมาะกับตัวเอง
ก็ไว้ผมสั้นมาตลอด..

แล้วยังไม่ทันจะเรียนจบม.ปลาย..
พายุกระหน่ำครอบครัว
เมื่อรู้ว่า อีพี่ยี้ แม่งท้อง..
โชคดีที่ปีสุดท้ายแล้ว มันก็ทนเรียนจนจบ
ตอนรับใบประกาศ ท้องยังไม่ยื่นเท่าไร แห่ะๆ

วันอาทิตย์ที่ 1 สิงหา ปี 42 (มั้ง)
ตอนเที่ยง นั่งกินข้าวคลุกกะปีกันอยู่
ไอ้ยี้ ลุกๆนั่งๆ เข้าห้องน้ำ
แม่ก็เริ่มสังเกต ถามไปว่า ปวดขี้ แต่ขี้ไม่ออกเปล่า
ยี้ ว่า อือ
แม่บอก พ่อเมิง ถอยรถ ลูกจะคลอดแล้ว -"-
ประสบการณ์ลูกสามนี่ สุดยอดจริงๆ คุณนายแอ๋ว -_-'

ซักบ่ายๆ แม่โทรมา คลอดแล้ว ผู้ชาย
ไอ้ยี้เล่าให้ฟัง ว่า เดินเข้าห้องคลอด
หมอดู ว่า หัวโผล่แว้ว..
มันก็ เบ่งสองที่ เสร็จ..

ณัฐชนนท์ = เกิดมาเพื่อเป็นนักปราชย์ เป็นชื่อที่หยกตั้งให้เอง
ก็ไอ้นัท หลานชายสุดรักสุดสวาท ตาเพย เค้าล่ะ
(อยากได้ลูกชาย แต่ไม่ได้ไง มาได้หลานชาย ก็หลงหน่อย)
จริงๆก็หลงกันทั้งบ้านน่ะล่ะ

ช่วงมีหลาน หยกอยู่ ม. 6 แล้ว ต้องเริ่มคิดเรื่อง มหาลัย
รู้สึกว่า วีชาที่เรียนแล้ว ทำได้ดี และสนุกที่ได้เรียน
คือ ภาษาอังกฤษ
เมื่อถึงเวลาที่ต้องเอนท์ ก็ไม่ได้อะไรมากมาย
ไม่ได้หวัง ว่ากุต้องเอนท์ให้ได้
แต่สอบๆไป พอเป็นพิธี แบบชิวๆ
(ดีที่พ่อแม่ ไม่ได้หวังเลย เรื่องเอนท์ จะเรียนไหน ก็ตามใจ)

รู้สึกว่า ตัวเอง บีลอง ทู รามฯยู แน่ๆ
มองหน้าเพื่อนก็รู้กันแล้ว กอดคอไปรามฯด้วยกันแหง๋ๆ ฮ่าๆ

หยกเลือกเรียน มนุษยศาสตร์ เอกอังกฤษ ม.ราม
หลังจากสมัครเรียนเรียบร้อย
ก็หาหอเช่าอยู่กัน ..

ปีแรก ต้องเรียนที่ รามฯ2 ส่วนใหญ่
ก็เลยต้องเช่าหออยู่ ที่บางนาฯ
เดินไปเรียนสบายๆ

ปีแรก เป็นอะไร ชิวๆ สนุกๆกันไป
แต่ละคน เช้าก็ไปเรียน เย็นก็กลับห้อง
ออกไปเดินเล่นตลาด ดูของเรื่อยเปื่อย
ยังกะโปโลเหมือนเดิม แต่เริ่มไว้ผมยาวกันทุกคน

ปีแรก หยกมีคนมาจีบเรื่อยๆ จนน่าตกใจ
เพราะก่อนหน้านี้ ไม่เคยมีแฟน หรือใครสนใจเลย

เด็กหญิงหยก เริ่มเป็นสาวแล้ว.. วิ้วๆ

ทู บี คอนตินิว..
นางสาวหยก

23.2.10

เมนู เดือนแห่งความรัก..

วันนี้เอาอาหารที่ทำมาลงให้ดูกันอีกแล้วจ้า..

ตอนมาใหม่ๆ อยากทำผัดเปรี้ยวหวานมาก
แต่ไม่อยากซื้อสัปะรดทั้งลูก เพราะแพงอยู่ -_-'
แต่แล้วก็พบแสงสว่าง..
คิอ ใช้สัปะรดกระป๋องก็ได้ ฮ่าๆๆ
อร่อย สะดวก และถูก..
ผัดเปรี้ยวหวานทะเลจ้า..
Image Hosted by ImageShack.us
ทะเลจานนี้มี กุ้ง หอยแมลงภู่ ปลาหมึก และปูอัด

ต้มจืดเป็นเมนูอย่างหนึ่งที่ทำกินบ่อย
เพราะทำง่าย ดีต่อสุขภาพ และไม่มีกลิ่นตกค้างในห้อง -_-'
พอดีได้เต้าหู้ไข่มาด้วย เลยครบเครื่องหน่อย
ต้มจืดเต้าหู้ไข่หมูสับวุ้นเส้น..
Image Hosted by ImageShack.us


บางที เมนูบ้านๆ ง่ายๆ อย่างไข่ต้มกับพริกน้ำปลา ก็ไม่ได้แย่อะไรนัก
Image Hosted by ImageShack.us
นานๆต้มกินซัก(หลายๆลูก)ที ก็อร่อยมากมาย..

ไข่ยัดไส้ ก็ทำกินเรื่อยๆ ถ้ามีเวลา
Image Hosted by ImageShack.us
น่ารักดี ฮ่าๆๆ

ตอนหยกมานี่ ก็เอาพวกพริกสำเร็จโลโบมาจากไทยด้วย
แต่ไม่ได้เอามามายเท่าไร
แกงเขียวหวานเอามาสองห่อ นี่ก็ห่อสุดท้ายแล้ว
แกงเขียวหวานจานสุดท้าย.. T_T
Image Hosted by ImageShack.us
แต่ไม่ต้องห่วงไป ที่นี่หาซื้อพริกแกงเขียวหวานได้ง่ายอยู่
(Green Curry Paste)

ถ้าได้ไป Oriental Mart ทีไร
กลับมา ก็สามารถทำอะไรกินได้หลากหลายขึ้นทุกครั้ง
เพราะได้เครื่องโน่นนี่ เพิ่มมาเรื่อยๆ
อย่างคราวก่อน ได้พวกเครื่องแกงมา อย่าง พริกแกงเผ็ด พริกแกงน้ำยา
Image Hosted by ImageShack.us
คว้าหน่อไม้กระป๋อง ข้าวโพดกระป๋อง และไข่เค็มมาด้วย
ตอนซื้อยังไม่รู้ว่าจะทำไรกิน แต่่ตูคว้ามาก่อน แล้วค่อยว่ากันอีกที ฮ่าๆ

ขนมจีนน้ำยาทูน่า
Image Hosted by ImageShack.us
ได้พริกแกงทำน้ำยากะทิมา พร้อมเส้นขนมจีน และมีลูกชิ้นปลาอยูแล้ว
ก็แค่ต้มกะทิกับพริกแกง ใส่ทูน่ากระป๋อง แล้วก็ลูกชิ้น
กินคู่กับกะหล่ำ แครอทและผัดกาดกระป๋อง อร่อย และทำง่ายมากๆ


ได้เนื้อมาจาก Kroger มีหน่อไม้ กะทิและพริกแกง อยู่แล้ว
ก็เลยได้ออกมาเป็น แกงกะทิเนื้อหน่อไม้
(ตอนอยู่บ้าน แม่ทำให้กินบ่อย เพราะที่บ้านปลูกหน่อไม้ขาย)
ทำง่ายไม่ยาก และอร่อยมากๆ
Image Hosted by ImageShack.us
เมนูนี้กินคนเดียวสองมื้อ คุณสามีไม่ทันได้กิน ฮ่าๆ
อีเมียซัดเรียบ..

ผัดพริกแกง เป็นเมนูหนึ่งที่หยกชอบกินมากกกก..
อยู่บ้านพี่สาวกับแม่ทำให้กินบ่อยอยู่
แต่จะเป็นพริกแกงหมูใส่ถั่วฝักยาว และหมูนี่ สามชั้นมันแยะๆ ฮ่าๆๆ
อยู่นี่ไม่ได้กินถั่วผักยาวเลย แต่ใส่หน่อไม้ฝรั่งก็อร่อยไฮโซอยู่

พริกแกงเนื้อหน่อไม้ฝรั่ง
Image Hosted by ImageShack.us

หยกและเดวิด ตามล่าหาซื้อตับกันอยู่พักหนึ่ง ไม่ได้กินตั้งแต่มาอยู่นี่
อยากกินตับ..อยากกินตับ.. (ปอบลงแดง ฮ่าๆ)
แล้วก็เจอจนได้ (ที่ร้านขายของเอเชียน่ะล่ะ)
หยกเลยทำ ตับหวาน+น้ำตก กิน
อันนี้กินคนเดียวตอนเช้า สามีไม่อยู่ ฮ่าๆๆ
Image Hosted by ImageShack.us
โชคดีที่ซื้อหอมแดงทิ้งไว้ และมีผักชีเหลืออยู่
ก็ทำข้าวคั่ว รวนตับและเนื้อ แล้วก็ลงมือยำ
อร่อย.. T^T

มื่อเย็น ย่างตับกิน(ไม่มีรูป) ก็เลยหุงข้าวเหนียวด้วย (แช่น้ำไว้ตั้งแต่เข้า)
ก็แบ้งเป็นสองส่วน ส่วนหนึ่งนึ่งกินกับตับย่างตอนเย็น
อีกส่วนเอามาทำข้าวเหนียวมูนกิน
(หยกหุงข้าวเหนียวโดยไมโครเวฟ ง่ายและอร่อยดี)
Image Hosted by ImageShack.us
กินเพียวๆ ไม่มีมะม่วงหรือทุเรียน คุณสามีชอบมาก..
ได้กุ้งสดมาจาก Oriental Mart พร้อมหัวใชโป๊และเต้าหู้
ก็เลยได้ทำผัดไทยกินอีกรอบ
Image Hosted by ImageShack.us
กุ้งสดนี่มันอร่อยดีจริงๆ TT_TT
(กุ้งแช่แข็งที่ Meijei ก็อร่อยเหมือนกุ้งสดเลย ชอบๆ)

ตับที่เหลือไม่มาก ทำมื้อสุดท้าย
หยกชอบกินผัดขิงตับ แต่คุณสามีไม่กินขิง
ในตู้มีถั่วงอกเหลือจากผัดไทย (ต้องรีบกิน เพราะเสียไวมาก)
ก็เลยออกมาเป็น ผัดตับถั่วงอก+ขิงตับ
Image Hosted by ImageShack.us
อร่อยอีกแล้ว..

(คุณสามีนั่งเขื่ยขิงออกตลอด เหมือนเด็กไม่กินผัก-_-' )

ส่วน Appetizer เพิ่งลองทำ Wonton กินไปเมื่อวาน
ช่วงไปแคนาดา ได้ออกไปกินที่ร้านอาหารไทยที่ Hamilton
ได้สั่ง Wonton หรือ เกี๊ยวห่อชีสทอด มากิน แล้วคุณสามีสะกิด
ลองทำนี่ให้กินหน่อยดิ
กลับมาก็เสริชหาสูตรในเน็ต แล้วทำได้ง่ายมาก
เมื่อวานได้ของมาครบๆ ก็เลยลองทำกินดู

Image Hosted by ImageShack.us
ทำง่ายกว่าทำปอเปี๊ยะ และอร่อยมากๆด้วย
(เอาไปให้คุณเจ้าของบ้านกินด้วย ชอบใหญ่)

เครื่องดื่ม ส่วนมากก็ ไม่ค่อยได้ทำอะไรมากมาย
ปกติก็ ไม่น้ำเปล่า ก็นม..

แต่วันไหนมีตัวเลือก อย่างส้ม หรือกล้วย หรือสัปะรดกระป๋อง
ก็ได้กินอะไรดีหน่อยๆ

มีผลไม้อะไร ก็จะเทลงเครื่องปั่น แล้วปั่นรวมๆกันไป

อันนี้รู้สึกจะเป็น ส้ม เชอร์รี่ กล้วย สตรอ และนมสด
Image Hosted by ImageShack.us
ใส่วิปครีมด้วย ดูหรูหรามาหน่อย กั๊กๆๆ

ชาเย็นแก้วนี้ ทำจากชาไทยผงสำเร็จ ที่ได้จาก Oriental Mart
Image Hosted by ImageShack.us
อร่อย แต่ไม่หอมเหมือนชาที่กินที่บ้านเรา..
ก็แก้อยากได้ดีระดับหนึ่ง
ประมาณว่า มีกินก็ดีแล้วอีหนู..

ของหวานก็ลงไปก่อนหน้านี้แล้ว
พวกเค้กต่างๆ ที่ได้ทำ

แต่ได้สูตรดีๆจากเวป Thaiontario.com
ก็เลยมาลองทำดู
Panna Cotta
Image Hosted by ImageShack.us
เป็น Half-Half กับ Whipped cream ใส่เจลาติน น่ะ
ทำง่าย ไม่ยากเลย แต่ใช้เวลาหน่อย
คือต้องทิ้งให้อยู่ตัวประมาณ 6 ชม หรือ ข้ามคืน
ส่วนหน้า หยกใช้ pie filling กระป๋องเอา
อร่อยดีเหมือนกัน สะดวก และถูกกว่าซื้อสตรอฯสดมาทำเอง

เดือนนี้อยู่บ้านส่วนใหญ่
และคุณสามีพาออกไปซื้อของบ่อยอยู่
ก็เลยได้ของมาทำอะไรเรื่อยๆ
เลยทำกินหลายอย่างอยู่..

วีคนี้ห้ามซื้อของเพิ่ม และต้องตามเก็บกินของที่มีในตู้เย็นให้หมด
เพราะต้องไปชิคาโก้น่ะ.. ไม่อยู่ห้าวัน

เปิดตู้เย็นดู..
งานหนักเหมือนกันนะนี่.. -_-'