.. เรื่องเล่าเล็กๆ ของถั่วลันเตาเขียวๆ..

นอกจากเรื่องเล่าต่างๆ รอบๆตัวเรา ที่หยกนำมาเล่าสู่กันฟังแล้ว

ก็ฟังเพลงเพราะๆ ความหมายดีๆ ประกอบไปด้วย..

คงช่วยให้วันหรือช่วงเวลาที่น่าเบื่อของคุณ ดีขึ้นบ้างล่ะ..เนาะ ^^


27.9.10

ตรวจภายใน.. ไม่ใช่เรื่องน่าอาย

เช้าวันนี้ไปสระบุรีมา
แวะไปทำฟันตามที่โทรมานัดก่อน..

เจอต้องอุดฟันไปสี่ซี่ โดนไป พันหก.. (ซี่ละสี่ร้อย)
เดินออกจากร้านตัวเบาเลย..
เด๋วต้องไปใหม่ หมอนัดไปถอนฟันกรามซี่ในสุด..
(หมอพูดน่ารักมากว่า .. ทำใจได้เมื่อไร ก็มาถอนนะ..
หนูคงต้องมาเร็วๆนี้แหล่ะ เพราะเด๋วจะไม่อยู่แว้ววว..)

แล้วก็ต่อมอเตอร์ไซด์ไป รพ.มิตรภาพ (เอกชนชื่อดังของสระบุรี)
เข้าไปก็ติดต่อเจ้าหน้าที่ เค้าก็ถามว่า มาตรวจอะไรคะ?
มาตรวจภายในค่ะ..
เจ้าหน้าที่ก็เขียนยิกๆ บนกระดาษหนึ่งใบ แล้วบอกให้ไปติดต่อที่แผนก สูตินารี
ก็บอกทางเรามา เราก็เดินไป..
เข้ามาที่แผนก ก็ยื่นใบที่ได้มาให้เจ้าหน้าที่
เค้าก็ถามว่า ตรวจแบบไหนดีคะ?
เราก็ว่า ตรวจมะเร็งปากมดลูก เนื้องอก อะไรก็ได้ค่ะ.. -_-'
เค้าก็บอกให้ช่าง นน. ก่อน..
ตัวเลขก็วิ่งๆ.. (ดิจิ น่ะ)
เลขที่ออก... .. 44.35 Kg.

Y_Y ..

นน.ขึ้นมา โลครึ่ง!!!! T^T ดีใจๆ

เค้าก็ถามประวัตินิดหน่อยว่า

อายุเท่าไรคะ?
-28 ค่ะ

แต่งงานแล้วนะคะ?
-แต่งแล้วค่ะ

มีลูกหรือยังคะ?
-ยังค่ะ (รออยู่เหมือนกัน คริคริ)

ไม่มีโรคประจำตัวนะคะ?
-ไม่มี(มั้ง)คะ

ทานยา หรือยาคุมอยู่หรือเปล่าคะ?
-เปล่าค่ะ

แล้วเค้าก็วัดความดัน .. ความดันปกติ..
แล้วก็ไปนั่งรอหมอ..

ซักพักก็มีป้าคนหนึ่ง มารอหมอเหมือนกัน
(ที่เรียกป้า เพราะเค้าตอบ 47 ตอนนางพยาบาลถาม)
ซักพัก คุณหมอผู้ชายก็เดินเข้ามาในแผนก แล้วก็เข้าไปในห้องตรวจ
ป้าแกก็พูดออกมาว่า เอ้อเหอ.. หมอผู้ชาย (_ _')
เราก็หันไปมองแก แล้วแกก็เลยชวนคุยว่า
มาตรวจภายในหรอหนู
ค่ะ..
หมอผู้ชายอ่ะ -_-'
ไม่เป็นไรหรอก คราวก่อนหนูตรวจก็หมอผู้ชายค่ะ (-.,-)
หรอ.. (_ _^)
ค่ะ
แล้วเค้าปิดหน้าเราเปล่า (-"-)
ไม่รู้สิหนูจะไม่ได้แล้ว.. (-o-)

แล้วเค้าก็เรียกชื่อเรา..

เข้าไปก็เปลี่ยนเป็นผ้าถุง
แล้วพยาบาลก็บอกให้ขึ้นนอน เอาขาขึ้นที่หยั่ง
พอเราขึ้นนอน เอาขาหยั่ง คุณพยาบาลก็เลิกผ้าถุงเราขึ้นเลย
คือ เจ้แกก็เห็นหมดเลยอ่ะ.. ยอมรับว่า ตกใจนิดหน่อย แห่ะๆ -_-'
แล้วคุณหมอแกก็เข้ามา พูดคุยนิดหน่อย
จำได้แค่ว่า แต่งงานแล้วใช่มั้ยครับ
ไม่ต้องเกร็งนะครับ สบายๆ
แล้วแกก็ เอาเครื่องมือสอดเข้าไป แล้วก็ชักออกมา
แล้วแกก็เอานิ้ว สอดอีก แล้วก็กดๆรอบๆหน้าท้องเรา
แล้วก็เอาออก ถอดถุงมือทิ้ง แล้วก็เดินออกไป..
คุณพยาบาลก็บอกว่า เสร็จแล้ว เปลี่ยนชุดได้เลยค่ะ

เสร็จแล้ว...

หนูยังงงๆอยู่เลย คุณหมอ เสร็จไวจังค่ะ กร๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
(ทะลึ่งละ ฮ่าๆๆ)

ผลการตรวจจะส่งไปให้ที่บ้านภายในสองวัน
ก็ออกมาจ่ายเงิน ทั้งหมด 595บาท..

แล้วก็ขึ้นรถกลับบ้าน..

เหลือแต่กลับไปถอนฟันกรามซี่บนในสุด
ก็เสร็จครบทุกอย่างที่แพลนไว้ว่าต้องทำตอนกลับมาบ้าน
(ขอวีซ่า ทำฟัน ตรวจภายใน)

เล็กๆน้อยๆก็หาซื้อของติดไม้ติดมือกลับไปด้วย..
(ก็พวกของกิน ของใช้ที่เราหาซื้อไม่ได้ที่โน่น)

เหลืออีกแค่ไม่กี่วันก็ได้กลับไปหาที่รักแล้ว..

ปล. สาวๆทั้งหลาย หาเวลาไปตรวจภายในบ้างก็ดีนะจ๊ะ
คุณหมอแนะนำมาว่า ตรวจปีละครั้งก็พอแล้วจ่ะ
แล้วค่าตรวจก็ไม่ได้แพงอะไรมากนัก
(รพ.รัฐจะประมาณ 300กว่าบาท โทรไปเช็คมาแล้ว
แต่เพราะเบื่อระบบรัฐและคนต้องแยะ
ก็เลยเลือกตรวจเอกชนดีกว่า ไว สะดวก แพงนิดหน่อย แต่โอเค..)
อ้อ แล้วก็ไม่ต้องอาย..
ทำหน้านิ่งๆเข้าไว้ แป๊ปๆเด๋วก็เสร็จ..
กันไว้ดีกว่าแก้ หรือเจอแล้วแก้แต่เนิ่นๆ ดีกว่า รู้เมื่อสายนะ..

26.9.10

ไปบึงฉวาก เที่ยวสามชุก แวะของดี 5ภาค ปิดท้ายวัดม่วง IV

วัดม่วง..

หลังออกจากสุพรรณฯ ก็ดิ่งมาที่บ้านพี่มาร์ช ซึ่งอยู่ในจังหวัดอ่างทอง
แวะบ้านพ่อแม่พี่มาร์ช เพือเอาของฝากที่ซื้อจากสามชุกและงานของดี ให้บ้านพี่มาร์ชกัน
(เป็นห่อหมกหม้อดิน กะปลากรอบหวาน)

ใกล้ๆบ้านพี่มาร์ช มีวัดม่วงอยู่ใกล้ (ใกล้จริงๆ)
ก็เลยตกลงว่า จะแวะวัดม่วงกันซัก 10-20 นาที

ตอนนั้นเวลาประมาณ ห้าโมงเย็นหน่อยๆ
วัดค่อนข้างเงียบและแดดตกหมดแล้ว ออกแนวครึ้มๆหน่อย
คนก็เป็นชาวบ้านแถวๆนั้น มาเดินเล่น ปั่นจักรยานออกกำลังกายกัน
แต่ก็มีนักท่องเที่ยวนิดหน่อย..

พอหยกลงจากรถมา ยืนแหงนหน้ามองพระใหญ่องค์นี้
น้ำตาเหมือนจะไหล.. รู้สึกว่า ใหญ่มากๆๆๆๆๆๆๆๆ และ สวยมากกกกกกกก..
แยากให้ทุกคน ไปเที่ยวชมกัน.. องค์นี้ สวยมากจริงๆนะ..

วัดม่วง จังหวัดอ่างทองจ้า..

Image Hosted by ImageShack.us
ตรงปลายนิ้วที่ตัก จะมีที่ให้สำหรับอธิษฐาน โดยยืนเอามือทั้งสองข้างแตะที่ปลายนิ้วกลางของพระ แล้วก็อธิษฐาน
Image Hosted by ImageShack.us
กะว่า ถ้าสมดังหวัง จะพาคนๆนั้น มาไหว้พระองค์นี้ซักครั้ง..

Image Hosted by ImageShack.us

สวยจริงๆเนาะ..
Image Hosted by ImageShack.us
วัดม่วงนี้ จะมีลานสอนคนอยู่
ก็จะเป็น รูปปั้นนรกขุมต่างๆ บทลงโทษ ของบาปแต่ละประเภท
Image Hosted by ImageShack.us
เดินๆถ่ายไป ก็ขนลุกไป..
นึกอุตริไปว่า ตกกลางคืน ถ้าเกิดรูปปั้นทั้งหลายนี้ มีชีวิตขึ้นมา.. บรื็ออออออออ...

เฮ้อ.. จบแล้ว ทริป1 วัน สุพรรณฯ+อ่างทอง..
ถือว่าคุ้มเลย หนึ่งวันได้เที่ยว สี่ที่
ทั้งบึงฉวาก สามชุก(ที่อยากไปมานาน) งานเที่ยว5ภาค และวัดม่วง..

เพื่อนๆมีเวลา ก็มาเที่ยวกันนะ
ไม่ว่าจะที่ไหนในไทย ก็น่าเที่ยวทั้งนั้น..
เริ่มต้นง่ายๆ ก็เที่ยวให้ทั่วจังหวัดของคุณเองก่อน (ซึ่งตัวหยกเองก็ยังเที่ยวได้ไม่ทั่วสระบุรีเล้ยยย..)

ไปกอดเมืองไทยให้หายเหนื่อยกัน.. นะ ^___^

ไปบึงฉวาก เที่ยวสามชุก แวะของดี 5ภาค ปิดท้ายวัดม่วง III

งานเที่ยว 5 ภาค..

มาต่อกันที่ งานของดี 5 ภาคที่สนามกีฬาจังหวัดสุพรรณบุรี
จอดรถไว้ด้านหน้าสนามฯ แล้วก็เดินเข้าไปด้านใน
โดยเค้าจัดเป็นซุ้มๆ แยกเป็นแต่ละจังหวัด
โดยมีการแจกหนังสือเดินทาง ทำเหมือน passport ล่ะ
แต่ด้านใน ให้แต๊มชื่อแต่ละจังหวัด เมื่อครบทั้ง76 จังหวัด สามารถเอาไปแลกของที่ระลึกได้
(จริงๆชื่องานเค้าคือ เที่ยวไทย 5 ภาค แต่หยกติดเรียกงานของดี น่ะ )

Image Hosted by ImageShack.us
แต่ละภาค ก็เลือกเอาของเด่น ของดี ของจังหวัดตน มาออกร้านขายของกัน..

แล้วก็เดินไปเจอซุ้มสระบุรี.. ของดีที่เอามาออกงานก็ เป็นไวน์รสต่างๆ
Image Hosted by ImageShack.us
แอบทำตัวเป็น พริตตี้.. กั๊กๆๆๆ.. ไวน์มั้ยคะ? ไวน์มั้ยคะ? กร๊ากกกกกก..

อ้อ จำไม่ได้แล้วว่า ไอ้ซุ้มหยกแท้เนี่ย คือของจังหวัดไหน..
ตูก็หยกแท้นะเคอะ.. จี้หยกก็มีแล้ว ผัวซื้อให้ (อันละ 35 มั้ง แต่เอามาเลี่ยมกรอบทองแท้เอา หลายพันเลย)
Image Hosted by ImageShack.us
มีโปสการ์ดจากอัมพวา และชาชักจากปัตตานี (กินมาแล้ว แก้วละ 35)

Image Hosted by ImageShack.us
เป็นด้านในของหนังสือเดินทางที่ใช้แต๊มชื่อแต่ละจังหวัด
พอดีว่า เค้าประกาศว่า ของรางวัลที่ใช้แลกหมด ถ้าจะแลกต้องรอ หลังหกโมงเย็น
แต่เราอยู่กันไม่ถึงก็เลย เลิกดีกว่า ตอนนั้นได้ไปครึ่งเล่มแล้วอ่ะ.. เซ็ง..

บ่ายสี่โมงแก่ๆ ก็ออกจากสนามกีฬา มุ่งหน้าไปสถานีต่อไป..

ระหว่างทาง เจ้านัทเกิดสนใจ อยากลองถ่ายกล้องของหยก (แคนนอน ตัวใหญ่อ่ะ)
ก็เลยยอม (แบบเต็มใจ) เป็นแบบให้มันลองถ่ายดู
ออกมาโอเคเลย ขนาดรถวิ่งๆอยู่ แต่ภาพค่อนข้างชัดใช้ได้..
เอ๊ะ หรือว่า เพราะแบบสวย?? กร๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกก..
Image Hosted by ImageShack.us
หน้ามันไปหน่อย.. -__-'

ป้ายหน้า.. วัดม่วง อ่างทองจ้า..

ไปบึงฉวาก เที่ยวสามชุก แวะของดี 5ภาค ปิดท้ายวัดม่วง II

สามชุก.. ตลาดร้อยปี

ออกจากบึงฉวาก ก็ตรงกลับมา ตลาดร้อยปี สามชุก

ตลาดสามชุกเนี่ย เป็นที่ ที่หยกอยากมา มากกกกๆๆๆๆ นานมาแล้ว
แต่ไม่มีโอกสาได้มาซักที..
เคยคุยกะเดวิดว่า อยากมาเที่ยวที่นี่ด้วยกันซักครั้ง
(แต่พอไปมาแล้ว คิดว่า เดวิดไม่มาก็ดีแล้ว เพราะร้อนมากๆ คนก็เยอะ ซึ่งเดวิดไม่ค่อยปลื้มเท่าไร)

แต่ในที่สุด ชั้นก็ได้มาเหยียบที่นี่.. สามชุก!!!

ไปจอดรถที่ทางเข้าด้านข้าง พอเดินเข้าตลาด ก็พยายามมองหาว่า ทางเข้าที่เคยเห็นเค้าถ่ายรูปกันน่ะ
มันอยู่ตรงไหนกันหนอ.. (ที่มีตู้ไปรษณีแดงๆใหญ่ๆอ่ะ)
แล้วก็เจอจนได้ Y_Y ไม่รอช้า ยิงไปหลายช้อตเลยจ้า..
(แต่พี่มาร์ช ถ่ายให้แบบ ป้ายชื่อสามชุกขาดๆเกินๆ และเน้นตัวคนไปหน่อย -_-')
Image Hosted by ImageShack.us
ยังไม่ทันได้เดินดูอะไร ก็หาร้านข้าวกินกันก่อน เพราะเที่ยงแล้ว หิวๆๆๆ
แล้วก็แวะกินข้าว ตรงใกล้ๆป้าย หรือทางเข้าน่ะล่ะ
คนเยอะมากๆ และร้อนสุดๆ หน้าเหนียว ตัวเหนียวไปหมด แต่กะคิดในทางดีว่า ก็ยังดีกว่าฝนตกล่ะเนาะ ^^

ร้านที่กิน เป็น ข้าวหมูแดง หมูกรอบ หมูรวมรส และหมูสะเต๊ะ
มีรูปท่านนายกฯด้วย เลยแอ๊บถ่ายด้วยซะหน่อย..

Image Hosted by ImageShack.us

เมื่อท้องอิ่ม กองทัะก็เดินหน้าต่อไปได้.. เดินเที่ยว ตามร้านต่างๆ อย่างเพลิดเพลิน (ร้อนกะสู้ว๊ะ)
Image Hosted by ImageShack.us
ที่เห็นเยอะๆ ก็พวกเสื้อและกระเป๋าที่สกรีนคำว่า สามชุก
ราคาไม่แพงจนน่าเกลียด แต่ก็ไม่ได้ซื้อมาหรอก เพราะมันเยอะ จนเลือกไม่ถูกว่าจะซื้ออะไรดี
Image Hosted by ImageShack.us

แวะซุ้มไปรษณีย์ ได้โปสการ์ดมาหนึ่งเล่ม 6 ใบ 6แบบ 35บาท เท่านั้น
Image Hosted by ImageShack.us
แล้วก็ลืมไม่ได้ ต้องมีรูปถ่ายคู่กะร้าน ลูกชิ้นยักษ์ ถ้าไม่มีก็เชื่อยากว่าไปสามชุกมา ฮา...

Image Hosted by ImageShack.us
เพราะดันไปเจอ ฝูงนักเรียนที่มาทัศนศึกษา ที่มีประมาณ 200กว่าชีวิต
เล่นเอาตลาดแคบ และหนวดหู (เพราะเสียงตะโกนโหวกเหวก ไร้สาระ) ก็เลยเซ็งๆ
เดินเล่นได้ประมาณ บ่ายสองแก่ๆ ก็เดินทางกันต่อ..

ป้ายหน้า สนามกีฬาจังหวัดสุพรรณบุรี งาน ของดี 5 ภาค จ้า..

ไปบึงฉวาก เที่ยวสามชุก แวะของดี 5ภาค ปิดท้ายวัดม่วง I

เมื่อวันเสาร์ที่ 25 กย หยกได้มีโอกาสไปเที่ยว
บึงฉวาก สามชุก ของดี 5 ภาค และวัดม่วง..
สี่ที่ในวันเดียว สนุกมากๆ (และถ่ายรูปแยะด้วย ฮ่าๆๆ)
เอ้า.. เริ่มต้นเล่าเลยเนาะ..

เช้าวันเสาร์ หยกยังนอนอุตุ ตื่นสายเฉกเช่นปกติ
ประมาณเกือบๆ8โมง ยี้ก็มาเคาะประตูห้องแล้วบอกว่า
"จะไปเที่ยวเปล่า ถ้าไปก็ลุกอาบน้ำแต่งตัว เด๋วจะไปกันแล้ว"
"อื๋อ?? เออๆ เครๆ"
งัวเงียๆ ลุกไปอาบน้ำ แต่งตัว
(ใช้เวลานานหน่อย เพราะมัวแต่ ตบตีอยู่กับการใส่ บิ๊กอายส์ แห่ะๆ)
แต่งตัวเสร็จเรียบร้อบก็ลงมารอด้านล่าง
ออกเดินทางประมาณ 8.30 น.
ทริปนี้มี หยก ยี้ นัท และพี่มาร์ช

สถานีแรก.. บึงฉวาก..

ขับรถไปทางสายภาชี ผ่านอ่างทอง เข้าสุพรรณบุรี
แล้วก็มาถึงบึงฉวาก รอบๆบึงนั้นเป็นสวนสัตว์ และรีสอร์ทริมน้ำ ห้องพักมีแบบธรรมดา และแบบบ้านบนต้นไม้
(ซึ่งก็เป็นแค่ตอไม้ปลอมๆ แล้วเอาบ้านไปแป่ะไว้ข้างบน แต่ก็ดูดีระดับหนึ่ง)

แล้วเราก็มาถึง บึงฉวาก พิพธภัณฑ์สัตว์น้ำ
ก็ถ่ายรูปเล่นกะเรี่ยกะราดกันไป สนุกสนาน..
Image Hosted by ImageShack.us
แล้วก็ไปดู under water world กัน (เห็นเค้าโม้ว่า ใหญ่ที่สุดในเอเชีย ตวอชต.)
ค่าตั๋วแพงจนน่าตกใจ O_O' ผู้ใหญ่ 150 บาท เด็ก 50บาท
ตอนแรกก็ทำใจว่า ก็เข้าใจนะว่า ค่าใช้จ่ายคงเยอะ (แต่พอเข้าไปแล้ว เฮ้อ..)

Image Hosted by ImageShack.us
เข้ามาด้านใน.. สวยงาน สะอาดและดูใหม่ใช้ได้ค่ะ..

Image Hosted by ImageShack.us
ก็ถ่ายรูปกันไปสนุกสนาน..

Image Hosted by ImageShack.us
แล้วก็เข้าไปส่วนของ The Open Sea เป็นอุโมงค์น้ำ โดยมีพื้นเลื่อนไปเรื่อยๆ
เหมือนที่ไป Under water world ที่สิงคโปรค์แหล่ะ แต่สั้นจิ๊ดเดียว
สั้นจิํดเดียวจริงๆ นะ -__-' แบบ อ๊ะ หมดละ??
แต่ที่สิงคโปรค์นานนะ นานแบบ เฮ้ย ไม่หมดซะทีเนาะ..
Image Hosted by ImageShack.us
แล้วก็มาส่วนของ อุโมงค์ฉลาม..
ก็มีเพียงแค่ ห้องๆเดียวสั้นๆเท่านั้น..
Image Hosted by ImageShack.us
ก็นั่งฟังเจ้าหน้าที่ให้ความรู้เกี่ยวกับฉลาม ประมาณ 20 นาที ก็จบ.. หมดแล้ว 150 บาท -__-'
แวะเดินดูของที่ระลึก.. (ราคาสูงไปหน่อยนะ ซื้อไม่ลงอ่ะ)
Image Hosted by ImageShack.us
ออกมาจากตึก ด้านข้างเป็นสวนน้ำจระเข้..
เห็นน้องตุ๊กเข้ นอนอ้า....ปาก อยู่ 2-3 ตัว
แต่ถูกใจป้ายต่างๆ เล่นเอาอมยิ้มได้เรื่อยๆ ตลอดทาง..
Image Hosted by ImageShack.us
ตอนนั้นเวลาประมาณ เที่ยงหน่อยๆ
ก็ออกเดินทาง ไปสถานที่ต่อไปกัน..
เน็กสเตชั่น.. สามชุกจ้า..

24.9.10

The rest of our lives..

เป็นเพลงที่ใช้ทำ MV สำหรับ Presentation เมื่องานแต่งงานของหยกกะเดวิด
ฟังกี่ที ก็รู้สึกดีเสมอ..

ก็เลย เอามาลงให้ลองฟังกันจ่ะ..



ชีวิตที่เหลือ - เอ็ม อรรถพล
พึ่งรู้ว่าชีวิต มีคุณค่า
โลกนี้สวยงามและน่าอยู่
พึ่งรู้ในความหมาย ทำเพื่อใคร
ก็เมื่อวันที่เธอเดินเข้ามา

เธอเป็นดังของขวัญยิ่งใหญ่
เป็นรางวัลให้กับคืนวันที่ใจเหนื่อยล้า
เธอได้ทำ ให้ฉันรู้ว่า ชีวิตมีค่าแค่ไหน

ขอให้รักกันอย่างนี้ อีกนานเรื่อยไป
ไม่ต้องถึงวันที่ฟ้า แตกสลาย
แค่ทั้งชีวิตที่เหลือ จะอยู่เคียงข้างกัน
มีฉันและเธอตลอดไป

ไม่รู้ว่าพรุ่งนี้ จะต้องเจอ
เรื่องราวมากมายซักเท่าไร
แค่รู้มีเธอนี้ ที่เข้าใจ
ก็ไม่กลัวจะต้องเจออะไร

เธอเป็นดังของขวัญยิ่งใหญ่
เป็นรางวัลให้กับคืนวันที่ใจเหนื่อยล้า
เธอได้ทำ ให้ฉันรู้ว่า ชีวิตมีค่าแค่ไหน

ขอให้รักกันอย่างนี้ อีกนานเรื่อยไป
ไม่ต้องถึงวันที่ฟ้า แตกสลาย
แค่ทั้งชีวิตที่เหลือ จะอยู่เคียงข้างกัน
มีฉันและเธอ .. .

ขอให้รักกันอย่างนี้ อีกนานเรื่อยไป
ไม่ต้องถึงวันที่ฟ้า .. แตกสลาย
แค่ทั้งชีวิตที่เหลือ จะอยู่เคียงข้างกัน
มีฉันและเธอ ..
ขอให้รักกันอย่างนี้ อีกนานเรื่อยไป
ไม่ต้องถึงวันที่ฟ้า .. แตกสลาย
ไม่ต้องถึงวันที่ฟ้า แตกสลาย
มีฉันและเธอ ตลอดไป
มีฉันและเธอ ..

22.9.10

วีซ่าแคนาดา..ข้าได้มันมาอีกแล้ว ว๊ะ ฮ่า ฮ่า..

คราวนี้มาเขียนเรื่องขอวีซ่าแคนาดากันบ้างเนาะ

หลังจากได้ไปขอวีซ่าเมกาและได้รับหนังสือเดินทางคืนมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ก็เตรียมเอกสารขอวีซ่าแคนาดาต่อ
กรอกข้อมูลต่างๆลงฟอร์มเรียบร้อย
เอกสารประกอบที่ใช้ขอ ก็มี
-ฟอร์ม IMM5257B, IMM5406E กรอกด้วย Acrobat อย่างเรียบร้อย ลงลายเซ็นต์พร้อม
-หนังสือเดินทาง หรือ Passport
-รูปถ่าย 2 ใบ (ก็เอารูปที่เหลือจากขอวีซ่าเมกาน่ะล่ะ แต่ตัดให้ได้ขนาดที่เค้ากำหนด)
-จม.รับรองจากสามี แนบสำเนาหนังสือเดินทางและหน้าวีซ่าทำงาน และนามบัตร
-สำเนาหน้าวีซ่าเมกาของหยก
-statement ของธนาคาร MSU ที่มีชื่อหยกและสามีร่วมกัน
-สัญญาเช่าบ้านที่ เพนซิลวาเนีย มีชื่อเราและสามี
-สำเนาทะเบียนสมรส ทั้งไทยและอิ้ง
- ขาด Bank Draft กะว่าจะไปซื้อที่ใต้ตึกเอาค่ะ

หยกก็ออกจากห้องเพื่อนที่ลาดพร้าว ขี้นMRT ที่สถานีลาดพร้าว
(เช้าๆคนแน่นมากกกก.. อัดกันยื่งกว่าปลากระป๋อง)
ลงที่ สถานีลุมพินี ออกประตูทางออก 2 นะจ๊ะ
แล้วก็ข้ามถนน ผ่านตึกอื้อจือเหลียง ไป ก็ถึงแล้ว ตึกอับดุลาฮิม

เข้าไปก็ต้องไม่ลืมซื้อ Bank Draft ที่ธนาคารกรุงเทพที่ใต้ตึก
เข้าไป เจ้าหน้าที่ก็ถามเลยว่า ซื้อ Bank Draft ใช่มั้ย
เค้าก็เอาฟอร์มมาให้กรอก (โดยปั๊มชื่อผู้รับให้เสร็จว่า "Embassy of Canada" )
หยกขอแบบ Multiple Entry ค่าธรรมเนียมก็จะแพงหน่อย อยู่ที่ $150 หรือ 4,800บาท
ตอนกรอกอยู เจ่าหน้าที่ก็เอาบัตรคิวมาให้ (คือไปกดมาให้เสร็จสรรพ)
ก็ไปนั่งรอ ไม่นาน ก็ถึงคิวเรา
ก็ยื่นฟอร์มที่กรอก พร้อมเงินและบัตรประชาชน
เจ้าหน้าที่ยิ่มแย้มดี ทำงานไว ไม่เสียเวลามาก
ก็จ่ายเพิ่มอีก 20 เป็นค่าธรรมเนียม

ไม่ถึง 20 นาที ก็เสร็จเรียบร้อย
(ประใจธนาคารสาขานี้มาก เพราะพนักงานคล่องและเป็นมิตรดีค่ะ)

เมื่อได้bank draft แล้ว ก็แลกบัตรกับพนักงาน ขึ้นไปชั้น 15 สถานทูตแคนาดา
(ตอนนั้นประมาณ 9 โมงหน่อยๆ)
เมื่อขึ้นมาแล้ว ก็ปิดมือถือและฝากไว้กับเจ้าหน้าที่
ตรวจกระเป๋า แล้วก็ได้บัตรคิวมานั่งรอด้านใน
ไม่นานเจ้าหน้าที่ก็เรียก ก็ถือเอกสารที่เตรียมไว้ ยื่นให้ที่ช่อง 3

ถ้าจำไม่ผิด รู้สึกว่า เจ้าหน้าที่รับเอกสารจะเปลี่ยนไป
คนก่อนหน้านี้จะผิวคล้ำๆสวยๆแต่หน้าบิ้ง (ที่เค้าว่าดุๆน่ะ)
แต่คนนี้ หมวยๆ ท่าทางใจดีหน่อย

มาต่อๆ หยกก็ยื่นเอกสารทุกอย่างไป เค้าก็จัดเรียงลำดับ
เย็บรูปติดกับฟอร์ม
นี่คือบทสนทนาที่คุย/ถามมา
Q-ไปเที่ยวใช่มั้ยคะ?
A- ใช่ค่ะ
Q-สามีได้งานที่เมกาหรือ?
A-ใช่ค่ะ
Q-มีตั๋วเที่ยวกลับมาด้วยมั้ย?
A- ไม่มีค่ะ ตอนนี้เราอยู่เมกานะ ไม่ได้อยู่ไทย
พอดีกลับมาเยี่ยมบ้านก็เลยมาต่อวีซ่าแคนาดาด้วยเลยน่ะ
ตั๋วขามาคือมาไทย ส่วนขากลับจะเป็นกลับเมกาค่ะ
Q- อ๋อ เข้าใจแล้ว
เดี๋ยพรุ่งนี้มาฟังผลตอนบ่ายสองนะ
A- ค่ะๆ

แล้วก็ออกมา.. เสร็จขั้นตอนที่แรก คือยื่นเอกสาร

วันต่อมา คือไปฟังผล
ออกจากห้องประมาณ 10.30 น.
ไปเดินเล่นที่ Union Mall จนเที่ยงกว่าๆ ก็ขึ้น MRT ไปลุมพินี
ไปถึงก่อนเวลา ตอนนั้นประมาณ บ่ายหนึ่งหน่อยๆ ก็นั่งเล่นฆ่าเวลาพักหนึ่ง
จนบ่ายครึ่ง ก็แลกบัตรแล้วก็ขึ้นไปข้างบน
ผ่าน รปภ. เข้ามาก็มายืนต่อแถว ซึ่งมีคนมาต่อรออยู่ก่อนหน้าประมาณ 7-8 คน
ก็เป็นคนที่มายื่นเมื่อวานเช้าน่ะล่ะ จำหน้ากันได้อยู่
ก็มีทั้งคนได้และไม่ได้ บ้างก็ต้องรอสัมภาษณ์
(ผู้หญิงคนหนึ่ง เจ้าหน่้าที่บอกนั่งรอก่อนนะคะ เค้าจะเรียกสัมภาษณ์
ส่วนอีกคน เจ้าหน้าที่บอก เราออกวีซ่าให้ไม่ได้นะคะ อ่านรายละเอียดจากกระดาษที่ให้ไปนะ)

พอถึงตาหยก ก็ยื่นใบนัดสีเขียวที่ได้มาเมื่อวาน
เจ้าหน้าที่ก็ หาๆๆๆ แล้วก็เจอ
เค้าก็เปิดพาสปอร์ตหยก แล้วก็บอกว่า วีซ่าอยู่หน้านี้นะคะ
ตรวจดูว่า ชื่อและรายละเอียดต่างๆ ถูกต้องมั้ยค่ะ
คือ คนอื่นๆที่อยู่ด้านหลังรู้หมดเลย เพราะเค้าพูดดังอยู่นะ
สรุปคือ ได้วีซ่ามาโดยไม่ต้องสัมภาษณ์จ่ะ แบบ 3 ปี เย้ๆๆ

วันนั้นหยกไปแบบชิวๆนะ ออกแนวโทรม คือ เสื้อยืด เกงยีนส์ หน้าไม่แต่ ใส่แว่น และกระเป๋าเสื้อผ้า
ออกเเนวบ้านนอกหน่อยๆ 5555 คือ เสร็จก็กลับบ้านเลยไง ของเลยเยอะ
คนเห็นก็อาจจะคิดว่า มาขอวีซ่าไม่น่าจะได้.. :P แต่ตูก็ได้มา

พอเดินออกมาหน้าตึก ก็เห็นผู้หญิงคนหนึ่ง (ที่ไม่ได้วีซ่า และไม่ได้สัมภาษณ์)
นั่งอยู่ด้านหน้าตึก โดยแฟนเค้าที่เป็นฝรั่ง อ่านเอกสารที่ปฏิเสธให้ฟัง
ผู้หญิงหน้าตาแบบลอยๆ เหมือนไม่รับรู้อะไรแล้วอ่ะ
เห็นแล้วนึกถึงตัวเองตอนที่ขอแล้วไม่ได้ (แต่ยังดีที่เค้าให้โอกาสสัมภาษณ์เราด้วย)

เฮ้อ.. อยากจะเข้าไปบอกว่า อย่ายอมแพ้ ยังไงก็ต้องได้ซักวันแหล่ะน่า..

ตอนนี้ก็เหลือแต่ทำฟัน กะตรวจภายใน แค่นั้น
แล้วก็แพคของเตรียมกลับบ้าน..
เหลือเวลาอีกแค่ไม่กี่วีคแล้ว..

คิดถึงที่รักมากมาย..

ปล. คินนั้นแชทกะเดวิด เค้าก็ดีใจ ที่เราได้วีซ่าทั้งสองอันสมใจโดยไม่มีปัญหาอะไร..

15.9.10

วีซ่าเมกา..ข้าได้มันมาอีกแล้ว ว๊ะ ฮ่า ฮ่า..

เมื่อวานหยกไปขอวีซ่าอเมริกามาเจ้าค่ะ
ออกจากห้องประมาณ หกโมงกว่าๆ
นั่งรถจากคอนโดเพื่อนที่ลาดพร้าว ไปนั้งเรือที่ท่าเรื่อ มอลล์ปิ
ถึงท่าวิทยุ ก็เดินตามถนนวิทยุไปเรื่อยๆ
แวะนั่งเล่นฆ่าเวลาที่ All Seasons Place (เพราะตอนนั้นเพิ่งจะ 7 โมง นัดไว้ 8โมง)

แล้วกระมาณ 7.20 น. ก็เดินไปสถานทูตอเมริกา

แถวด้านนอก ยาววววววมากอ่ะ O_O'
รู้งี้เดินมาเลยซะก็ดี ไม่ไปนั่งเล่นฆ่าเวลาหรอก

ก็ยืนรอด้านหน้าอยู่ร่วมชม. (_ _')
เค้าก็ปล่อยเข้าไปทีละ 7-8 คน
พอผ่านประตูเข้าไปก็ ยื่นเอกสารให้เจ้าหน้าที่เช็ค
ฝากมือถือ และร่ม ไว้ที่ รปภ.
ผ่านเข้ามาด้านใน ก็มาต่อแถวที่คดเคี้ยว 4-5 พับอีกรอบ ยืนต่ออยู่ร่วมครึ่ง ชม.
เมื่อมาถึง เรา เจ้าหน้าที่ก็ตรวจเรียงเอกสารอีกรอบ
หยกมีปัญหาเรื่องค่าธรรมเนียม หยกจ่ายขาดไป $10
ก็ต้องไปจ่ายเพิ่มด้านใน แล้วก็ออกมาหาน้องคนนี้อีกรอบ
เมื่อชำระส่วนที่ขาดเรียบร้อยแล้ว เค้าก็ให้เข้าไปด้านในห้องที่รอสัมภาษณ์ได้เลย

(ถ้าเป็นคนที่ยังไม่เคยได้วีซ่า ต้องไปช่อง 1-3 ก่อน
ซึ่งเป็นช่องบันทึกลายนิ้วมือ และซักถามอะไรรวมทั้งเอกสารนิดหน่อย
ซึ่งต้องรอนานมากๆ ตอนหยกมาคราวก่อน รอนานมากๆ กว่าจะเสร็จแต่ละคน)
หยกเคยได้วีซ่าแล้ว ก็เดินผ่านขั้นตอนนี้ไปได้เลย

คนที่เคยได้วีซ่ามาแล้ว จะได้เข้าไปต่อแถว หน้าต่างช่อง 11-12
เราก็ยืนรอ ต่อคิวไป..
นานร่วมชม.เจ้าค่ะ นานมากกกกก.. และเหมื่อยมาก ขยับไปมา เปลี่ยนท่าทางก็แล้ว
กว่าจะหลุดผ่านไปได้แต่ละคน นานหลายสิบนาที แล้วแถวยาวมากๆ

ระหว่างยืนต่อแถวช่อง 11 ก็ดูคนอื่นๆที่มาขอวีซ่าที่ช่องอื่นๆ
(ช่อง8-10 คือ วีซ่าชั่วคราวอย่าง ท่องเที่ยว นักเรียน ที่มาขอวีซ่าครั้งแรก)
เค้าจะเรียกตามบัตรคิว แล้วแต่ว่าจะได้ช่องไหน
เวลาเจ้าหน้าที่ถาม คนข้างนอกก็จะได้ยินด้วย ว่าเจ้าหน้าที่ถามว่าอะไร เพราะเค้าพูดผ่าน speaker
สังเกตว่า ช่อง 10 คนจะได้วีซ่าเยอะ (แต่ที่เค้าไม่ให้ก็มีนะ)
สัมภาษณ์เป็นภาษาไทยเสียส่วนใหญ่ (เจ้าหน้าที่เป็นฝรั่ง แต่พูด-อ่านไทยได้ แต่ก็ยังสำเนียงฝรั่งอยู่)

"ยินดีด้วยครับ เราจะส่งวีซ่าให้คุณภายใน 3 วันครับ"
"เสียใจด้วยครับ เราไม่สามารถออกวีซ่าให้คุณได้ครับ"
"เสียใจด้วยครับ คุณไม่มีคุณสมบัติให้เราออกวีซ่าให้ได้ครับ"

ได้ยินกันหมดว่า ผลเป็นไง ได้ไม่ได้ รู้กันหมดเลย

จนถึงคิวเรา เจ้าหน้าที่(คนไทย)ก็ถามหาเอกสารต่างๆ
ก็ยื่นๆเพิ่มเติมเค้าไป สิ่งหนึ่งที่เค้าถามหาเหมือนคราวก่อนคือ ใบทะเบียนสมรส
ก็เอาสำเนาให้เค้าไป แล้วเค้าก็ไล่เราไปนั่งรอ เรียกชื่อ
ได้นั่งแล้ว Y_Y

ประมาณ 10 นาที เค้าก็เรียกให้ไปรับแฟ้ม แล้วไปยื่นต่อที่ช่อง 11
เป็นฝรั่งผู้ชาย คิ้วขมวดๆหน่อย จากเคสคนที่อยู่หน้าเรา -_-'
เค้าก็พลิกๆดูเอกสารต่างๆ
แล้วก็ถามอะไรซักอย่าง แต่มันไม่เข้าไมค์
หยกก็เลยบอกไปว่า "I m sorry, I cannot hear you"
เค้าก็ อ้อ เปิดไมค์ แล้วก็ถามว่า "What is your husband's nationality?"
Y - Canadian.
Officer - อ่านใบสมรส ภาษาไทย You married last year?
Y- Yes.
Officer - go to cashier at the corner and pay $15 then come back here again.
Y - Oh..ok

ไปจ่ายเงินอีก $15 แล้วก็กลับมา ช่อง 11 อีกรอบ
Officer - When do you intend to travel?
Y- October 14.
Officer - Oh.. lot of time. We will send you visa within 3 days. Go outside and buy the envelope. Have a good day! ^_^
Y- Oh.. Thank you very much. Have a good day!

ออกมาซื้อซอง เขียนจ่าหน้าซองเสร็จ ก็ส่งคืนเจ้าหน้าที่
แล้วก็เดินออกมาด้านหน้ารับมือถือและร่ม แล้วก็เดินออกมา..

ได้วีซ่าแล้ว..

นึกแปลกใจตัวเอง ที่ยืนได้นานขนาดนั้นทั้งวัน
โดยที่ไม่เป็นลม เพราะข้าวก็ไม่ได้กิน นอนก็น้อย แล้วก็เครียดด้วย
หลายคนบอกว่า เครียดอะไร วีซ่าก็เคยได้มาแล้ว
แค่มาเปลี่ยน ก็ได้อยู่แล้ว
แต่แหม.. วีซ่าอ่ะนะ เป็นอะไรที่เอาแน่นอนไม่ได้จริงๆนะ
ก็ไม่อยากประมาทไง ผิดพลาดไป แย่เลยนะ
ไม่อยากจะคิดว่า ถ้าเกิดไม่ได้ขึ้นมาจริงๆ จะเป็นยังไง

แต่ได้วีซ่ามาแล้วก็สบายใจ..

เดวิดโทรมาหาด้วย..
ตอนนั้นประมาณ 4-5โมงเย็น ที่โน่นก็ ตี 4 กว่าๆ
เค้าบอกนอนไม่หลับ เพราะเป็นห่วงเรา
พอบอกว่า เราได้วีซ่า ก็ดีใจใหญ่

ได้ยินเสียงที่รักแล้ว ชื่นใจ หายเหนื่อยขึ้นมาหน่อย..
(แต่ก็ยังเหนื่อยอยู่ดี (_ _'))

เช้าวันนี้ออกจากกรุงเทพแต่เช้า กลับถึงบ้านที่สระบุรีก่อนเที่ยง
ระหว่างที่เก็บกวาดห้องและแพคกระเป๋า (เอาของต่างๆที่ซื้อไว้เตรียมเอากลับไปด้วย ลงกระเป๋า)
แม่ก็เดินเข้ามาในห้อง ยื่นซองสีเหลืองๆให้
เฮ้ย.. จริงดิ O_O

ดูหน้าซอง เป็นลายมือเราเอง ที่เขียนเมื่อวาน.. -"-
แกะออกดู มีหนังสือพาสปอร์ต เอกสารยืนดีที่ได้รับวีซ่า และข้อปฏิบัติที่ถูกต้อง
แล้วก็เอกสารบางอย่างที่เค้าส่งกลับคืนมาด้วย
เปิดดูหน้าวีซ่าก่อนเลย ชื่อ-สกุล วันเกิน วันที่ อะไรต่างๆ ถูกต้อง
ดูวีซ่าอันเก่า นึกว่าจะแสตมป์ cancel เสียอีก แต่ไม่มี

ไปสัมภาษณ์เมื่อวานเช้า วันนี้บ่ายได้รับพาสปอร์ตคืนแล้ว
ไวสุดยอดเลย.. O_O

ก็เลยกะว่า วันจันทร์-อังคารนี้ จะกลับไปบางกอก เพื่อขอวีซ่า แคนาดาอีกอัน

เรื่องขอวีซ่าเนี่ย เหนื่อยไม่ใช่เล่นเลยนะเนี่ย
เครียดก็เครียด นอนก็ไม่หลับ ข้าวก็กินไม่ได้
ขนาดขอได้แล้ว ก็ยังกินไม่ลง
(เพื่งจะมากินได้ปกติมื้อเย็นนี้เอง)

ใครสนใจเรื่องการขอวีซ่าอเมริกา หรือ แคนาดา
ปรึกษาหยกได้นะ ถ้ารู้หรือช่วยได้ จะช่วยเต็มที่
ฟรีจ่ะ ไม่คิดค่าบริการ..
แต่ขอได้แล้ว ก็แวะไปเยี่ยมกันบ้างก็ดีนะ
อยากมีเพื่อนไปเยี่ยมมั่งน่ะ Y_Y

7.9.10

เต้าหู้ยี้ กะ สมาร์ช

แล้วก็่ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี

กีบงานแต่งงานของยี้กะพี่มาร์ช เมื่อวันอาทิตย์ที่ 5 กย 53

อาจจะมีขลุกขลักบ้าง แต่ก็สำเร็จลุล่วง

วันนี้ว่าง ก็เลยเอารูปมาลงให้ได้ดูกันจ่ะ

ช่วงก่อนวันงาน ก็จัดเตรียมสถานที่รอบๆบ้านและในบ้าน
ก็กางเต้นท์ ขนของจากวัด (พวกเก้าอี้, หม้อ ชาม จาน ช้อน กะละมัง ฯลฯ)
Image Hosted by ImageShack.us เพื่อนๆว่าที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวก็มาร่วมแจมช่วยขัดล้าง(พัดลม)และอื่นๆ สนุกสนานกันไป..

ดึกๆหน่อย ร้านก็เอาดอกไม้ และชุดเครื่องรดน้ำมาส่ง และจัดสถานที่ให้
(คราวนี้รดน้ำด้านหน้าข้างล่าง ตอนงานหยก รดที่ระเบียงด้านหน้าชั้นบน)

Image Hosted by ImageShack.us
ก็ช่วยกันเตรียมของต่างๆ เช่นของรับไหว้ จัดขนมขันหมาก
Image Hosted by ImageShack.us
สังเกตได้ว่า พานขันหมากคราวนี้ อลังกว่างานหยกอีก..สวยว่ะ อิจฉาลึกๆY_Y

ประมาณสี่ห้าทุ่ม ก็เข้านอนกัน..

ตีสี่กว่าๆ ยี้มาเคาะประตูห้องนอน บอกว่าช่างแต่งหน้ามาแล้ว
เราก็งัวเงียลุกแปรงฟัน แล้วก็คว้ากล้องมาเก็บภาพไว้
Image Hosted by ImageShack.us ไม่นาน เจ้าสาวก็สวยพร้อมสู้งาน ช่างภาพ และช่างกล้องก็มาพอดี
ก็ลงมือ จัดแสงไฟ มุมต่างๆ มืออาชีพจริงๆ (พี่แอ๊น)

Image Hosted by ImageShack.us ช่วงที่ช่างถ่ายรูป เราก็แอบถ่ายไปด้วย.. ตัวแบบก็จะไม่มีใครมองกล้อง
เพราะเค้ามองไปที่กล้องช่างไง..
Image Hosted by ImageShack.us
รูปนี้ ให้ช่างเค้าใช้กล้องเราถ่ายให้ เพราะจะส่งไปให้บ้านเดวิดดูน่ะ..
(ถ้าใช้กล้องช่างหมด ก็ต้องรอนาน กว่าจะได้รูปมาหลังแต่ง)

ซุ้มรดน้ำสังข์ด้านล่าง..
Image Hosted by ImageShack.us
ช่วงเช้าก็เป็นการทำบุญ..
Image Hosted by ImageShack.us เสร็จก็ลงมากินข้าวกัน.. (รูปนี้เป็นลูกพี่ลูกน้องกัน ลงประกวดดาวมหาลัยด้วยนะ แต่ไม่ได้ เหอ เหอ)

Image Hosted by ImageShack.us
กับข้าวเยอะมาก แต่ไม่รู้ทำไม กินไม่ลง
กินๆคุยๆกันอยู่ หันไป อ้าว.. ขันหมากมาไง(ว๊ะ)???
ก็เลยละจานข้าวคว้ากล้องแล้วก็วิ่งไปถ่ายขบวนขันหมาก
(ไม่รู้ว่าเค้าไปตั้งขันหมากกัน ก็เลยไม่ได้ไปถ่ายตอนเค้าเริ่มกัน)

Image Hosted by ImageShack.us ประตูเงิน-ทอง เยอะมากอ่ะ.. -_-'
แล้วขบวนขันหมากก็(ฝ่าประตูสิบเจ็ดสิบแปดอรหันต์ทองคำ)ขึ้นบ้านไป(จนได้) -_-'

Image Hosted by ImageShack.us
เมื่อเจ้าสาวออกมาก ก็ทำพิธีการต่อไป สวมแหวน สวมทองกันไป..
Image Hosted by ImageShack.us เรียบร้อยก็ต่อด้วยรดน้ำสังข์และผูกข้อมือกันไป..

Image Hosted by ImageShack.us

Image Hosted by ImageShack.us

Image Hosted by ImageShack.us ระหว่างเค้าทำพิธี เรากก็คุยเล่นกะเพื่อนและถ่ายรูปกันไปเรื่อยๆ
(สังเกต หยกเปลี่ยนชุดนะ ไม่ใช่อะไร เพราะชุดแรกเป็นกางเกงสีขาว
คุกเข่าลากกะพรมที่เอามาจากวัด ลากไปมา เข่ากางเกงดำหมดเลย แล้วก็มีเทียนติดกาเกงมาอีก
กลัวจะเลอะไปใหญ่ ซักไม่ออก ก็เลยเปลี่ยนดีกว่า)

เมื่อพิธีการอะไรๆ เสร็จหมดแล้ว ก็เป็นการถ่ายรูปกัน.. สนุกสนานกันไป..
Image Hosted by ImageShack.us ก็เป็นพวกเพื่อนๆจากมาลาสวรรค์และเทคนิคนครนายก..
Image Hosted by ImageShack.us ช่วงเช้า จบด้วยพิธิส่งตัวเข้าหอ.. (สังเกต เงินให้เมียเก็บหมดเลย.. เสร็จล่ะ หึหึ)

ช่วงเย็น ก็กินเลี้ยงที่ หอประชุม รร. ข้างบ้าน
ของชำร่วยของงานนี้เป็นpocket book ที่เพื่อนพ่อพี่มาร์ชช่วยทำให้(ในราคาพิเศษ)
เนื้อหาก็ประมาณ แนะนำเรื่องการอยู่ร่วมกัน ปรองดอง เพื่อรักษาชีวิตคู่ให้ยาวนาน
แล้วก็เอามาแพคเอง ใส่เทียนเพิ่มและติดโบว์ให้ดูสวยงาม
Image Hosted by ImageShack.us
หยกกะเพื่อนๆก็รับซอง แจกของชำร่วย และถ่ายรูปเล่นกันไปมา อยู่ตรงโต๊ะหน้างานน่ะล่ะ ไม่ได้เข้าไปข้างในเลย

Image Hosted by ImageShack.us เมื่อพิธีการเสร็จสิ้น และแขกเหรื่อเริ่มกลับไปบ้าง
ก็มีเวลาว่าง ก็นะ ถ่ายรุปเล่นกันไปเรื่อยเปื่อย (นานๆแต่งตัวสวยที ขอหน่อยๆ)
Image Hosted by ImageShack.us
ก็ให้ช่างกล้องถ่ายให้บ้างเราถ่ายเองบ้าง สนุกสนานกันไป..
น้องคนนี้ เป็นลูกพี่ลูกน้องอีกคน พอเป็นหนุ่ม มันยืดตัว สูงกว่าหยกเยอะเลย อย่างที่เห็น
Image Hosted by ImageShack.us
ปิดท้ายด้วยรูปคู่กะช่างกล้อง.. (หน้าเหมือนเพื่อนม.ปลายที่ชื่อ นัท มากๆอ่ะ)

ดีใจ เพราะโชคดี ที่วันนั้น คืนนั้น ฝนไม่ตก
ทั้งๆที่ก่อนหน้าวันงาน ฝนตกตลอดทุกวันไม่หยุด
อยู่ดีๆ ก็มาหยุดตกช่วงวันงานพอดีเลย.. ดีใจมากๆ
(แขกในงานมีแต่คนบอกว่า บ้านเรา โชคดีจริงๆ จัดงานสองครั้ง ฝนไม่ตกซักครั้ง)

ไว้ได้รูปเพิ่มจากช่าง จะเอามาลงเพิ่มอีก..

จะว่าไป ตั้งแต่กลับมาบ้าน ก็ไม่ค่อยได้อัพบล็อกเท่าไร..
เรื่องรูปบ้านใหม่ที่สัญญาไว้ ว่างจะเอามาลงให้ดูแล้วกันนะ.. :)

วันจันทร์นี้ ต้องไปกรุงเทพ
เพราะต้องไปขอวีซ่าเมกาวันอังคาร.. ตื่นเต้นๆ