.. เรื่องเล่าเล็กๆ ของถั่วลันเตาเขียวๆ..

นอกจากเรื่องเล่าต่างๆ รอบๆตัวเรา ที่หยกนำมาเล่าสู่กันฟังแล้ว

ก็ฟังเพลงเพราะๆ ความหมายดีๆ ประกอบไปด้วย..

คงช่วยให้วันหรือช่วงเวลาที่น่าเบื่อของคุณ ดีขึ้นบ้างล่ะ..เนาะ ^^


22.9.10

วีซ่าแคนาดา..ข้าได้มันมาอีกแล้ว ว๊ะ ฮ่า ฮ่า..

คราวนี้มาเขียนเรื่องขอวีซ่าแคนาดากันบ้างเนาะ

หลังจากได้ไปขอวีซ่าเมกาและได้รับหนังสือเดินทางคืนมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ก็เตรียมเอกสารขอวีซ่าแคนาดาต่อ
กรอกข้อมูลต่างๆลงฟอร์มเรียบร้อย
เอกสารประกอบที่ใช้ขอ ก็มี
-ฟอร์ม IMM5257B, IMM5406E กรอกด้วย Acrobat อย่างเรียบร้อย ลงลายเซ็นต์พร้อม
-หนังสือเดินทาง หรือ Passport
-รูปถ่าย 2 ใบ (ก็เอารูปที่เหลือจากขอวีซ่าเมกาน่ะล่ะ แต่ตัดให้ได้ขนาดที่เค้ากำหนด)
-จม.รับรองจากสามี แนบสำเนาหนังสือเดินทางและหน้าวีซ่าทำงาน และนามบัตร
-สำเนาหน้าวีซ่าเมกาของหยก
-statement ของธนาคาร MSU ที่มีชื่อหยกและสามีร่วมกัน
-สัญญาเช่าบ้านที่ เพนซิลวาเนีย มีชื่อเราและสามี
-สำเนาทะเบียนสมรส ทั้งไทยและอิ้ง
- ขาด Bank Draft กะว่าจะไปซื้อที่ใต้ตึกเอาค่ะ

หยกก็ออกจากห้องเพื่อนที่ลาดพร้าว ขี้นMRT ที่สถานีลาดพร้าว
(เช้าๆคนแน่นมากกกก.. อัดกันยื่งกว่าปลากระป๋อง)
ลงที่ สถานีลุมพินี ออกประตูทางออก 2 นะจ๊ะ
แล้วก็ข้ามถนน ผ่านตึกอื้อจือเหลียง ไป ก็ถึงแล้ว ตึกอับดุลาฮิม

เข้าไปก็ต้องไม่ลืมซื้อ Bank Draft ที่ธนาคารกรุงเทพที่ใต้ตึก
เข้าไป เจ้าหน้าที่ก็ถามเลยว่า ซื้อ Bank Draft ใช่มั้ย
เค้าก็เอาฟอร์มมาให้กรอก (โดยปั๊มชื่อผู้รับให้เสร็จว่า "Embassy of Canada" )
หยกขอแบบ Multiple Entry ค่าธรรมเนียมก็จะแพงหน่อย อยู่ที่ $150 หรือ 4,800บาท
ตอนกรอกอยู เจ่าหน้าที่ก็เอาบัตรคิวมาให้ (คือไปกดมาให้เสร็จสรรพ)
ก็ไปนั่งรอ ไม่นาน ก็ถึงคิวเรา
ก็ยื่นฟอร์มที่กรอก พร้อมเงินและบัตรประชาชน
เจ้าหน้าที่ยิ่มแย้มดี ทำงานไว ไม่เสียเวลามาก
ก็จ่ายเพิ่มอีก 20 เป็นค่าธรรมเนียม

ไม่ถึง 20 นาที ก็เสร็จเรียบร้อย
(ประใจธนาคารสาขานี้มาก เพราะพนักงานคล่องและเป็นมิตรดีค่ะ)

เมื่อได้bank draft แล้ว ก็แลกบัตรกับพนักงาน ขึ้นไปชั้น 15 สถานทูตแคนาดา
(ตอนนั้นประมาณ 9 โมงหน่อยๆ)
เมื่อขึ้นมาแล้ว ก็ปิดมือถือและฝากไว้กับเจ้าหน้าที่
ตรวจกระเป๋า แล้วก็ได้บัตรคิวมานั่งรอด้านใน
ไม่นานเจ้าหน้าที่ก็เรียก ก็ถือเอกสารที่เตรียมไว้ ยื่นให้ที่ช่อง 3

ถ้าจำไม่ผิด รู้สึกว่า เจ้าหน้าที่รับเอกสารจะเปลี่ยนไป
คนก่อนหน้านี้จะผิวคล้ำๆสวยๆแต่หน้าบิ้ง (ที่เค้าว่าดุๆน่ะ)
แต่คนนี้ หมวยๆ ท่าทางใจดีหน่อย

มาต่อๆ หยกก็ยื่นเอกสารทุกอย่างไป เค้าก็จัดเรียงลำดับ
เย็บรูปติดกับฟอร์ม
นี่คือบทสนทนาที่คุย/ถามมา
Q-ไปเที่ยวใช่มั้ยคะ?
A- ใช่ค่ะ
Q-สามีได้งานที่เมกาหรือ?
A-ใช่ค่ะ
Q-มีตั๋วเที่ยวกลับมาด้วยมั้ย?
A- ไม่มีค่ะ ตอนนี้เราอยู่เมกานะ ไม่ได้อยู่ไทย
พอดีกลับมาเยี่ยมบ้านก็เลยมาต่อวีซ่าแคนาดาด้วยเลยน่ะ
ตั๋วขามาคือมาไทย ส่วนขากลับจะเป็นกลับเมกาค่ะ
Q- อ๋อ เข้าใจแล้ว
เดี๋ยพรุ่งนี้มาฟังผลตอนบ่ายสองนะ
A- ค่ะๆ

แล้วก็ออกมา.. เสร็จขั้นตอนที่แรก คือยื่นเอกสาร

วันต่อมา คือไปฟังผล
ออกจากห้องประมาณ 10.30 น.
ไปเดินเล่นที่ Union Mall จนเที่ยงกว่าๆ ก็ขึ้น MRT ไปลุมพินี
ไปถึงก่อนเวลา ตอนนั้นประมาณ บ่ายหนึ่งหน่อยๆ ก็นั่งเล่นฆ่าเวลาพักหนึ่ง
จนบ่ายครึ่ง ก็แลกบัตรแล้วก็ขึ้นไปข้างบน
ผ่าน รปภ. เข้ามาก็มายืนต่อแถว ซึ่งมีคนมาต่อรออยู่ก่อนหน้าประมาณ 7-8 คน
ก็เป็นคนที่มายื่นเมื่อวานเช้าน่ะล่ะ จำหน้ากันได้อยู่
ก็มีทั้งคนได้และไม่ได้ บ้างก็ต้องรอสัมภาษณ์
(ผู้หญิงคนหนึ่ง เจ้าหน่้าที่บอกนั่งรอก่อนนะคะ เค้าจะเรียกสัมภาษณ์
ส่วนอีกคน เจ้าหน้าที่บอก เราออกวีซ่าให้ไม่ได้นะคะ อ่านรายละเอียดจากกระดาษที่ให้ไปนะ)

พอถึงตาหยก ก็ยื่นใบนัดสีเขียวที่ได้มาเมื่อวาน
เจ้าหน้าที่ก็ หาๆๆๆ แล้วก็เจอ
เค้าก็เปิดพาสปอร์ตหยก แล้วก็บอกว่า วีซ่าอยู่หน้านี้นะคะ
ตรวจดูว่า ชื่อและรายละเอียดต่างๆ ถูกต้องมั้ยค่ะ
คือ คนอื่นๆที่อยู่ด้านหลังรู้หมดเลย เพราะเค้าพูดดังอยู่นะ
สรุปคือ ได้วีซ่ามาโดยไม่ต้องสัมภาษณ์จ่ะ แบบ 3 ปี เย้ๆๆ

วันนั้นหยกไปแบบชิวๆนะ ออกแนวโทรม คือ เสื้อยืด เกงยีนส์ หน้าไม่แต่ ใส่แว่น และกระเป๋าเสื้อผ้า
ออกเเนวบ้านนอกหน่อยๆ 5555 คือ เสร็จก็กลับบ้านเลยไง ของเลยเยอะ
คนเห็นก็อาจจะคิดว่า มาขอวีซ่าไม่น่าจะได้.. :P แต่ตูก็ได้มา

พอเดินออกมาหน้าตึก ก็เห็นผู้หญิงคนหนึ่ง (ที่ไม่ได้วีซ่า และไม่ได้สัมภาษณ์)
นั่งอยู่ด้านหน้าตึก โดยแฟนเค้าที่เป็นฝรั่ง อ่านเอกสารที่ปฏิเสธให้ฟัง
ผู้หญิงหน้าตาแบบลอยๆ เหมือนไม่รับรู้อะไรแล้วอ่ะ
เห็นแล้วนึกถึงตัวเองตอนที่ขอแล้วไม่ได้ (แต่ยังดีที่เค้าให้โอกาสสัมภาษณ์เราด้วย)

เฮ้อ.. อยากจะเข้าไปบอกว่า อย่ายอมแพ้ ยังไงก็ต้องได้ซักวันแหล่ะน่า..

ตอนนี้ก็เหลือแต่ทำฟัน กะตรวจภายใน แค่นั้น
แล้วก็แพคของเตรียมกลับบ้าน..
เหลือเวลาอีกแค่ไม่กี่วีคแล้ว..

คิดถึงที่รักมากมาย..

ปล. คินนั้นแชทกะเดวิด เค้าก็ดีใจ ที่เราได้วีซ่าทั้งสองอันสมใจโดยไม่มีปัญหาอะไร..

No comments: