My First X'Mas Tree

ตอนนี้หยกอยู่ Strathroy, CA

มาพักอยู่กับไดแอน พี่สาวเดวิด ตั้งแต่เมื่อวันอาทิตย์

ก็ประมาณ 3-4 วันแล้ว

คืนแรก ทุกคนอยู่บ้านครบ ก็เลยไม่มีห้องว่าง

เค้าก็ให้หยกนอนชั้นใต้ดินไปก่อนคืนหนึ่ง

แล้วเช้าวันต่อไมา ลูกสาวเค้ากลับไปเรียน

ก็มีห้องว่างให้ใช้

แต่พอลูกสาวเค้าไป หยกก็ยังเลือกนอนชั้นใต้ดินเหมือนเดิม

ก็ดูเอาแล้วกัน น่าอยู่ต่อมั้ยล่ะ??

ฮ่าๆๆๆๆๆ

มีโต๊ะพูล และบาร์เครื่องดื่มด้วยนะ

นี่โซนที่หยกยึดพื้นที่ มีฟูกให้ นอนสบายๆ

ทีวีจอใหญ่กว่าตัวเราอีก ครองคนเดียวตอนนี้ กั๊กๆๆ

อ้อ มีเน็ตให้ใช้ได้วย..

ตื่นมาเช้าวันจันทร์ หิมะตก..

ก่อนหน้านี้ หิมะยังไม่ยอมตกที่ Strathroy

พอหยกมา ก็ตกเลย.. เหอ เหอ

สวนหลังบ้าน.. ปิดสระว่ายน้ำ ไม่มีกำหนด..

เอ้า เข้าเรื่อง..

บ้านนี้เค้ารอให้หยกมาช่วยแต่งต้นคริสมาส

เพราะเดวิดคุยไว้ว่า หยกอยากทำ และเป็นคริสมาส (จริงๆ)ครั้งแรก

เค้าก็เลยอยากให้หยกมีส่วนร่วมด้วย

เมื่อคืนวันจันทร์ ก็ได้เริ่มลงมือทำกัน

บ้านนี้มีห้องใต้บันได เก็บพวกของตกแต่งบ้านไว้

อย่างวันคริสมาส แต๊งสกิฟวิ่ง ฮัลโลวีน

ก็ขนของสำหรับวันคริสมาสออกมา

วุ่นกันอยู่สองคน เพราะ บริตนีย์ไม่อยู่ กลับไปเรียน

ดั๊กออกไปกินกาแฟกับเพื่อน เคอร์ติสทำรายงาน

ก็เหลือหยกกับไดแอน ทำกันหัวฟู

เริ่มจัดการประกอบต้นก่อน..

ประกอบไปซักพัก ก็นึกได้ว่า ต้องถ่ายรูปๆ

ส่งให้เดวิด บริตนีย์ และที่บ้านหยกได้ดูกัน

เริ่มเป็นรูปเป็นร่างแล้ว..

ต้นเสร็จแล้ว.. (แฮ่กๆๆ)

ต่อด้วยติดไฟ..

เวียนหัวหน่อยๆ เพราะต้องเดินรอบต้น หลายรอบเลย

พอเสียบปลั๊กแล้วมีเส้นหนึ่งไฟไม่ติดเยอะ หลายดวง

ก็ต้องรื้อถอดออก แล้วเอาเส้นใหม่ใส่แทน

เล่นเอาเหงื่อตกกีบอยู่เหมือนกัน..

ติดไฟเสร็จ ก็เริ่มเอา เครื่องตกแต่ง ห้อยรอบๆ

ตอนนี้สนุก เพราะ ของห้อยเยอะมาก..

พอดีเพื่อนไดแอน ชื่อแอน แวะมาจัดการเรื่อง

ของขวัญสำหรับออฟฟิศ ก็เลยอยู่ช่วยพักหนึ่ง

ติดนางฟ้าบนยอด..

เสร็จแล้ว เย้ๆๆ..

เก้าอี้ สำหรับซานต้า..

เสร้จแล้วจ้า.. ต้นคริสมาสต้นแรก

แล้วคืนวันอังคาร ไดแอนมารับ

ให้ไปช่วยที่แบงค์ ตกแต่งสำนักงานรับวันคริสมาส

ก็ได้รู้จักเพื่อนไดแอนที่แบงค์

กับแอน ที่ไปช่วยที่บ้านเมื่อวันก่อน

(เปรี้ยวมาก คนนี้ ชอบๆ)

เรียงจากซ้ายไปขวาก็

เมซี่ ไดแอน(อีกคน) แอน ซู หยก และ..?? จำไม่ได้ ฮ่าๆ

ส่วนไดแอน พี่เดวิด เป็นคนถ่ายรูปนี้

ต้นนี้หยกเป็นคนแต่ง น่ารักๆ

ซักชม.ก็แต่งในออฟฟิศเสร็จ แล้วก็ออกไปกินมื้อเย็นกัน

แล้วก็กลับมานอนดู The biggest Loser : Finale ทันเวลา

เข้านอนตอนเที่ยงคืนได้..

เด๋ววันนี้ต้องย้ายไปบ้านพ่อแม่เดวิด ที่ London

คงไปอยู่เรื่อยๆ.. แต่ที่โน่นไม่มีเน็ต

ไดแอนก็ว่า ถ้าเบื่อ อยากกลับมาพักที่นี่ก็บอก

เค้าจะไปรับ.. เพราะที่นี่มีอะไรให้ทำเยอะกว่า

ก็คิดว่า คงไม่ทำอะไรมาก นอกจาก

ถักนิตติ้ง ทำกับข้าว และจัดการกับอัลบั้มรูปให้เสร็จ

คงไม่ได้อัพบล็อกไปอีกพัก เพราะไม่มีเน็ตนะจ๊ะ..

ปล. เช้านี้เดวิดโทรมา

คุณสามีไม่ฉะบาย ภรรเมียก็ไม่ได้อยู่ดูแล

น่าสงสาร..

Quiet Downtown Lansing..

เพราะพรุ่งนี้ หยกต้องเดินทางไปแคนาดา

จะกลับอีกที ก็หลังปีใหม่

ก็เลย(ใช้สิทธิ์ภรรยา บังคับ)ให้คุณสามี พาไปถ่ายรูปในตัวเมืองหน่อย

เพราะช่วงนี้ เค้าเริ่มประดับไฟ รับเทศกาลกันแล้ว

ตอนแรกก็กะว่า จะออกไปหัวค่ำหน่อย

เสร็จแล้วก็จะแวะไปดูหนังในมหาลัย ($2+ป๊อปคอร์น ต่อคน)

แต่ไปๆมาๆ สปาเก๊ตตี้ อืดเต็มท้อง

ก็เลย ลดโปรแกรมเหลือแค่ ถ่ายรูปอย่างเดียวก็พอ

ขับรถไปประมาณ 15 นาทีก็ถึง

เงียบ... สนิท

เป็นย่านธุรกิจน่ะ พอมืด ก็กลับบ้านกันหมด

กลางคืน ถ้าไม่มีอะไรพิเศษ ก็จะเงียบแบบนี้

แวะถ่ายตรงวงเวียน..

ไม่มีคนก็ดีอย่างนี้.. ทำอะไรก็ไม่(ค่อย)อายเท่าไร (-. ,-)

ของขวัญ..ของคนอื่น..

กับผู้ชายในเครื่องแบบ.. :P

ต้นคริสต์มาส.. ใหญ่ แต่ไม่ถึงกับใหญ่มาก..

เริ่มยิ้มไม่ค่อยนิ่งแล้ว ปากสั่นเพราะหนาว..

หน้าที่ทำการอะไรซักอย่าง

อ่านแล้ว พยายามจำ แต่ลืมไปแล้ว .. หึ หึ

หยกว่า รูปจะไม่สวยเวลาใช้แฟลชธรรมดา

แต่พอใช้ slow flash ก็จะเบลอแบบนี้

ถ้าจะให้นิ่ง ต้องใช้ขาตั้งกล้องช่วย

(หยกชอบรูปนี้จัง)

กลายเป็นธรรมเนียมไปแล้ว

ว่าไปไหนต้องถ่ายรูปคู่กันเป็ฯที่ระลึกด้วย..

ขอบคุณที่พามาค่า..

อากาศตอนนั้น ประมาณ -4 องศา

หิมะตกปรอยๆบางๆ พอถึงพื้นก็ละลายหายไป

ใส่รองเท้าหนังธรรมดาไป เจ็บเท้ามากเลย

เพราะอากาศเย็นมาก..

เท้าชานะ แต่เจ็บ..

คราวหน้า ถ้ายังไม่ได้ถุงเท้าอย่างหนา

ก็ต้องใส่บูท เพราะ ช่วยได้เยอะหน่อย..

กลับมาบ้านก็ แพคกระเป๋าต่อ

เพราะเดินทางช่วงหน้าหนาว

เสื้อผ้าก็จะเยอะ กว่าปกติ

ไหนจะรองเท้าอีกสามคู่

(บูท, ผ้าใบ และหนังสูท)

ไหนจะไก่งวงอีกตัว -_-'

เหมือนคนบ้าอพยพเลยแฮะ

แคนาดาจ๋า.. หยกมา(อีก)แล้วน๊า...

ปล. หมวกกับผ้าพันคอสีชมพูอ่อนนี่

ซื้อมาจากประตูน้ำ สามร้อยห้าสิบแน่ะ

ถักเองก็ได้ รู้งี้ไม่ซื้อมาหรอก (แต่นุ่มดีนะ)

หิมะ หิมะ ล๊า ลา..

เมื่อวานหยกกับเดวิด ออกไปดูบาสเกตบอล หญิง ที่มหาลัย

นั่งๆรถไป คุณสามีก็ร้องขึ้นมาว่า

"Ah.. i think i saw the snow flakes!?!"

หือ หือ ไหนๆๆ??

แน่ใจนะว่ะ ไม่ใช่ฝุ่น หรือ แมลงน่ะ?? -"-

-_________-' คุณสามี

พอขับไปซักพัก เข้าไปในมหาลัย

เป็นเกล็ดน้ำแข็ง เล๊ก เล็ก ตกลงมาปรอยๆ

สโนวว์!!!! จริงๆด้วย T^T

ถ่ายรูปไว้ก่อนเข้าไปดูบาส..

เข้ามาแล้ว กำลังอุ่นเครื่องกันเลย..

ตั๋วฟรี สองใบที่ได้มา

เค้าแจกตั๋วฟรีให้นศ.ที่นี่ ตรงที่นั่งเขียวๆน่ะ ตั๋วฟรีทั้งนั้น

อยากกินขนมที่เค้าเดินขายอยู่ในฮอลล์ ซื้อให้หน่อย.. T^T

ใกล้ๆจบเกม ลุ้นน่าดู เพราะคะแนนเบียดกันน่าดู ผลัดกันนำ ผลัดกันตาม

จบเกม มิชิแกนสเตจ ชนะ นอร์ท แคริโรน่าไป 72:66 เย้ๆ

ออกมาถ่ายรูปตรงนี้อีกรอบ หิมะตกหนักขึ้น

ต่อไปก็ น่าทีประทับใจ ถ่ายรูปไปเรื่อยๆ

โชคดีวันนี้เลือกใส่บูทใหม่ที่ซื้อไว้ พอดี

คือ ใครผ่านมาก็รู้เลยว่า อีนี่เพิ่งเห็นหิมะครั้งแรก

กระดี๊กระด๊าสุดๆ ฮ่า ฮ่า..

มีฟามสุข..

ก่อนกลับก็ต้องจัดการกับหิมะบนรถเสียก่อน

กลับมาบ้านแล้ว ก็ยังไม่เลิกเล่น..

ตุ๊กตาหิมะตัวแรกที่ปั้น ขี้เหร่ได้ใจ ฮ่าๆๆ

อยากจะบอกว่า เวลาเย็นมากๆ

นิ้วเนี่ย เจ็บสุดๆ..

ส่วนเช้านี้ ตื่นสาย.. เจ็บคอหน่อยๆ -__-'

พอลุกจากเตียงได้ ก็ยังอุตส่าวิ่งออกไปดูหิมะอีก

ยังอยู่ ยังไม่ละลายหายไปไหน (ตกปรอยๆด้วย)

อยากไป แคนาดาไวๆ อยากเล่นสเก็ตน้ำแข็ง..

อ้อ.. ตอนนี้ หลายๆบ้าน ประดับไฟรับวันคริสมาสกันแล้ว

สวย..

เดือนนี้ สนุกแน่..

ปล. หมวกที่ใส่น่ะ หยกถักเองนะ..

I thought you forgot..

มาอยู่นี่ ได้ดู Ghost whisperer ทุกวัน จันทร์-ศุกร์
ช่อง ion เวลา 7.00-9.30 pm

จำกันได้หรือเปล่า ว่าใครเป็นใคร
เรื่องเป็นยังไง?

เอาคร่าวๆนะ
เมลินด้า กอร์ดอน (Jennifer L Hewitt) มีความสามารถพิเศษ
คือสามารถเห็นและพูดคุยกับวิญญาณได้
จิม(David Conrad)คือสามี ที่เชื่อและคอยสนับสนุนเมลินด้า
ในการช่วยวิญญาณให้ข้ามภพไป

หยกติดเรื่องนี้มาตั้งแต่อยู่ที่ไทยแล้ว
ดูซีซั่น 1-2 แล้วก็ได้มาดูอีกทีที่นี่
ซีซั่น 5 ซะมั้ง ล่าสุดน่ะนะ
โดดมาก -__-'

ซีซั่นล่าสุดนี่ จิมตาย (โอ้ววว.. โนวว..)
เป็นตอนที่แบบว่า เศร้ามาก
ดูกี่ทีก็น้ำตาไหล
เมลินด้า ก็นะ มองเห็นผีสามีน่ะล่ะ
ก็พยายามไล่ให้ข้ามภพไป (cross over)
แต่คุณสามียังไงก็ไม่ไป เพราะเป็นห่วงคุณเมีย

แล้ววันหนึ่ง ขณะขับรถ ก็ผ่านอุบัติเหตุรถชน
คุณผีจิม ก็ตัดสินใจ เข้าสิงร่าง(หรือศพ)
(เข้าใจเลือกด้วยนะ หนุ่มหน้าตาดีเชียว)
แล้วก็ฟื้นขึ้นมา แต่..

จิมจำอะไรไม่ได้เลย แม้แต่เมลินด้า..

ก็คิดเหมือนกันว่า การที่คนรักตายไป
(แต่ยังสามารถเห็น และคุยกันได้ทุกวัน เพราะเห็นวิญญาณได้)
กับเค้ายังอยู่ แต่จำเราไม่ได้ และไม่ได้รักเราเลย
อันไหนเจ็บปวดกว่ากันหนอ?

แต่ลึกๆแล้ว จิม (เจ้าของร่างชื่อ แซม)
มีความรู้สึกบางอย่างกับเมลินด้า แต่บอกไม่ถูก
เมลินด้าก็ไม่รู้จะบอกยังไงว่า แซม คือสามีเธอ

แล้วเรื่องก็เดินไปเรื่อยๆ
แซม (ข้างในคือจิม) มีคนรักอยู่แล้ว
แต่เพราะจำใครไม่ได้เลย ก็เลยรู้สึกสับสน
เพราะความรู้สึกที่ว่า ก่อนประสบอุบัติเหตุ รักกันอยู่กับคนนี้
แต่พอหลังจากอุบัติเหตุ จำคนรักไม่ได้
แต่รู้สึกพิเศษกับคนแปลกหน้าที่ไม่เคยรู้จัก อย่างเมลินด้า

ค่อนข้างซับซ้อนนะ แต่เค้าผูกเรื่องได้ดีมากเลย

อ้อ ซีซั่นนี้ เมลินด้าได้เพื่อนใหม่
ชื่อ อีไล เจมส์ Eli James(แสดงโดย Jamie Kennedy)
คนนี้ประสบอุบัติเหตุ ไฟไหม้หรืออะไรนี่แหล่ะ
หลังจากนั้นก็ สามารถคุยและได้ยินวิญญาณ แต่มองไม่เห็น

ตอนแรกๆ ก็กลัว และสับสน เพราะจะได้ยินพวกวิญญาณพูดคุย
และพอรู้ว่า เค้าสามารถได้ยินวิญญาณ ก็ตามขอร้องให้ช่วยตลอด
ก็เล่นเอา เครียด และหลอนไปเลย
ก็ได้เมลินด้าช่วย และเป็นพี่เลี้ยงให้ ว่าควรรับมืออย่างไร

แล้วก็เลยได้มาเป็นเพื่อนกัน และช่วยวิญญาณให้ข้ามภพ

เอ้ากลับมาที่ เมลินด้า และจิม ในร่างแซม
จิมย้ายมาอยู่กับเมลินด้า เพราะรู้สึกไว้ใจเมลินด้ามากที่สุด
แต่อยู่แยกในโรงเก็บของหรือโรงรถนะ (น่าอยู่เหมือนกัน)

แล้วจิมก็เลือกที่จะเลิกกับคนที่เค้า(เคย)รัก
แล้วมาเริ่มคบกับเมลินด้า

จิม(ในร่างแซม)ตอนนี้ ไม่รู้ว่า เมลินด้ามีความสามารถพิเศษ
ในการมองเห็นวิญญาณ และคอยช่วยเหลือพวกเค้า ให้ข้ามภพ
และพอเวลาเมลินด้า คุยกับวิญญาณ แล้วจิมมาเห็น
ก็เหมือนคุยอยู่คนเดียว
ก็คิดว่า เมลินด้า มีพฤติกรรมประหลาด

แล้ววันหนึ่ง เมลินด้าก็ต้องบอกความจริงกับ จิม (ในร่างแซม)
ว่า เธอสามารถมองเห็นวิญญาณ
จิม สามีของเธอ คนที่เคยยอมรับและเชื่อในสิ่งที่เธอพูด
และคอยซัพพอร์ตเธอตลอดมา
ตอนนี้มองว่า เธอกำลังพูดตลก และยังไม่สามารถเชื่อในสิ่งที่เธอบอกมาได้
อีกทั้งไม่เชื่อว่า เค้าคือสามีที่ตายไป แล้วมาสิงร่างนี้

อันนี้เจ็บปวดว่ะ..

แต่ก็นะ ผู้เขียนบทก็ใจร้ายไม่ได้นาน
ไปๆมาๆ (ในช่วงที่ขาดการดูอย่างติดต่อ T_T )
จิมก็กลับมาเชื่อในสิ่งที่เธอบอก และความจำที่ว่า เค้าคือจิมก็เริ่มจำได้ (มั้ง)

แล้วไปๆมาๆ เมลินด้าประสบอุบัติเหต นิดหน่อย
ก็ไปโรงพยาบาล หมอก็ตรวจๆเช็คๆ
แล้วก็ว่า "you are lucky that your baby is safe."
หือ??? -__-??
งงทั้ง เมลินด้า จิม และกุ คนดู..

เมล ท้องงงง..ง..ง

ก็ถามว่ากี่เดือน (สองเดือน)
แล้วก็ว่า จิมเพิ่งตายไป 8 อาทิตย์
ก็ลูก(แท้ๆ)ของจิม.. (ที่อุตส่าต์ทำติดก่อนตาย)

ถูกจาย.. T^T


รูปตอนแต่งงานอีกรอบ (กะลังท้องเลย)
(อีไล จิม เมลินด้า และ เดเลีย เพื่อนใหม่)
จริงๆ แซม ที่จิมใช้ร่างอยู่ จะเป็นนักแสดงอีกคน
แต่เวลาฉาย หรือแสดง จิมในร่างแซม ในเรื่อง เค้าจะใช้ จิมคนเดิมอยู่
(ค่อนข้างอธิบายยาก แต่หยกเข้าใจ ว่าใครเป็นใคร ฮ่าฮ่า)

อ้อ.. ล่าสุดที่ได้ดู ก่อนที่จะเอาของเก่ามาฉายอีกรอบช่วงนี้
คือ ลูกเมลินด้า เป็นผู้ชาย ชื่อ Aiden
มีความสามารถเหมือนแม่เด๊ะๆ
คือมองเห็น และคุยกับผีได้..
หนุ่มน้อยนี่ก็ไม่ได้กลัวเล้ย.. ฉลาดอีกต่างหาก

ถูกจาย... ^____^

ที่บรรยายมาเสียนาน
จริงๆตั้งใจแค่ว่า จะมาเล่า ตอนที่ประทับใจ ที่ได้ดูวันนี้น่ะ
เป็นตอนเก่า เอามาฉายใหม่

คือ ตอน จิมกับเมลินด้าพบกันครั้งแรก
ฝนตกๆ แล้วจิมทำร่มเมลินด้าพัง
ก็เลยชวนไปกินมื้อเย็น
เป็นแค่ฮอทดอก ที่ขายในรถเข็น ตามข้างทางน่ะ..
(นึกออกมั้ย?)

แล้วมาวันหนึ่ง หลังจากช่วยวิญญาณข้ามภพแล้ว
เมลินด้า ก็ซื้อของขวัญกลับมาให้จิมที่บ้าน
จิมก็ถามว่า เนื่องในวันอะไร?
เมลินด้าก็ว่า ไม่จำเป็นต้องเป็นวันพิเศษก็ให้ได้ แค่เห็นแล้วนึกถึงจิม
แกะออก เป็นที่ปิ้งฮอทดอก ทำเป็นทรงรถเข็นขายฮอทดอก
เหมือนวันแรกที่จิมพาไปกินน่ะ
จิมก็ชอบใหญ่ แล้วก็บอกให้เมลินด้าไปหยิบแจคเก็ตในตู้ให้
เพราะเด๋วไปทำงานไม่ทัน
เมลินด้า ก็หน้าจ๋อย เพราะจิมดูเหมือน จะจำไม่ได้
ว่ารถเข็นฮอทดอก หมายถึงอะไร

แล้วพอเธอเปิดตู้ เพื่อหยิบแจ๊คเก็ตให้จิม ก็พบของขวัญชิ้นหนึ่ง
แกะดู เป็นร่มสีแดง เหมือนวันที่จิมทำของเธอพัง ตอนที่พบกันครั้งแรก
จิมเดินมาข้างหลัง (ถือแก้วไวน์มาด้วย)
เมลินด้าว่า "I thought you forgot"



น้ำตาไหลเลยกุ.. Y_Y

แค่นี้แหล่ะ..

อ้ากว้างๆครับ..

เพิ่งกลับมาจากหมอฟัน

ปากหอม..สะอาด.. สดชื่น.. ฮ้าา..า..~*

..ร้อยเหรียญ Y_Y


เรื่องของเรื่องคือ เมื่อวีคก่อนคุณสามีมาขูดหินปูน
แล้วก็นัดให้เรามาทำบ้างอาทิตย์หน้า

ก็นัดไว้วันนี้ ตอนสี่โมงครึ่ง
มาถึงตอนบ่ายสี่ ก็แจ้งความจำนง
เค้าก็ให้แบบฟอร์มมากรอก สำหรับลูกค้าใหม่เพราะยังไม่มีประวัติ
เยอะมาก..
นอกจากประวัติทั่วๆไป อย่าง ชื่อ ที่อยู่ เบอร์ติดต่อ
ก็จะมีถามเรื่องประวัติการรักษา แพ้ยามั้ย มีโรคอะไรหรือเปล่า
มีศัพท์บางคำที่ไม่เข้าใจ เพราะเป็นศัพท์เทคนิค
ก็ถามคุณสามีเอา
กรอกไป สามหน้าได้..
ใช้เวลาร่วมครึ่ง ชม.
จ่ายค่าธรรมเนียม $79
(ราคานี้ ได้ค่าเช็คฟันและขูดหินปูนสองครั้งต่อปี
ถ้าหมอตรวจเจอว่าต้องอุด ถอน หรือ อื่นๆ ก็จ่ายต่างหากนะเคอะ)

แล้วเจ้าหน้าที่ก็เรียกชื่อ..สกุล
เค้าบอก ออกเสียชื่อเราไม่ถูก ขอโทษที..
เราว่า ชื่อเราอ่านออกง่ายนะ -________-
มีแค่เสียง อา กับ อี

ก็เอ็กซ์เรย์รอบปากก่อน..
แล้วก็เข้าช่อง นั่งบนโต๊ะ
(ที่นี่จะไม่แยกเป็นห้องๆเหมือนบ้านเรา
แต่เป็นช่องๆ กับเก้าอีก และอุปกรณ์

ถ้าเป็นแค่ขูดหินปูน จะให้ผู้ช่วยทำ
เมื่อเสร็จ ก็จะเรียกคุณมามาตรวจว่าใช้ได้มั้ย
ถ้าทำมากกว่าขูดหินปูน เช่น อุด ถอน ดัด ฯ
หมอจริงจะดูแลทำเอง

หยกแค่ขูดหินปูน ผู้ช่วยผู้หญิงเป็นคนทำ
ชื่อ Cam เป็นคนเอเชีย ไม่ได้ถามว่าชาติไหน
เค้าถามก่อนเลยว่า พบหมอครั้งสุดท้ายเมื่อไร
(เดือนสค. ก็สี่เดือนก่อนจ้า)
เค้าก็ว่า คงจะมีไม่มาก..
เราก็เช็คก่อนมา ก็ไม่ค่อยมีนะ

เค้าชมว่า ฟันสวย และสะอาดด้วยแหล่ะ หึ หึ..

คุณ Cam พูดจาดี ยิ้มแย้ม และชวนคุยตลอด
(เราก็ อื้อๆ อ้าๆ ไป เพราะอ้าปากอยู่)

ที่นี่ไม่มีมา พักเบรก เอ้า..บ้วนปากค้าบ
แต่เค้าจะดูดออก แล้วเวลาขูด เค้าจะให้เราตะแคงข้าง
ถ้าตั้งหน้าตรงๆ อย่างบ้านเรา น้ำและน้ำลาย ไม่ไหลลงคอ
ให้เราต้องคอยกลืนเอื้อกๆ อย่างลำบาก
พอตะแคงข้าง น้ำจะไปออ อยู่ที่กระพุ้งแก้ม แล้วเค้าก็ดูดออกง่ายๆ

ซักประมาณ ยี่สิบนาทีก็ขูดเสร็จ (ไม่เจ็บเลย)
แล้วก็แปรงฟันให้เราเสร็จเลย
เป็นหัวหมุนๆ เหมือนแปรงไฟฟ้า ขูดๆขัดๆ
ได้รสชาดยาสีฟัน..
แล้วก็มีน้ำล้างด้วย พ่นน้ำและดูดออก
สบาย..

ต่อด้วยทำ ฟลูออไรด์ อีกหนึ่งนาที (อันนี้จ่ายเพิ่ม $19 )

แล้วเค้าก็ไปตามหมอใหญ่มาดูความเรียบร้อย

หมอก็มา ขูดๆ แทงๆ ดู..
แล้วก็อย่างที่คิดไว้..
คือหมอว่าต้องซ่อมแซมฟันสองซี่
เค้าก็จิ้มๆว่า ซี่นี้ และนี้ T_T

แล้วก็ออกมาจ่ายตังค์เพิ่มค่า ฟลูออไรด์
เจ้าหน้าที่ก็ชี้แจงให้ฟัง ว่า
คุณหมอนัดให้มา อุดฟันหนึ่งซี่
และซ่อมฟันอุด (refill) อีกซี่
เบ็ดเสร็จจะประมาณ $1000

-_____________________-

จะนัดเลย หรือโทรมานัดวันหลังดีคะ? เจ้าหน้าที่ถาม
ตั้งสติได้ ไว้จะโทรมานัดวันหลังดีกว่าค่ะ..


ชิหาย.. ทำฟันสองซี่ สามหมื่น
เพิ่มอีกหน่อย ได้ค่าตั๋วกลับบ้านเลยนะนั่น..
(ในใบนัดว่า ราคาปกติ $1765
แต่ราคาสมาชิก ลดลงเหลือ $919
นี่ลดแล้วนะนี่ -________-')

ก็คุยกันระหว่างกลับบ้าน ว่าจะเอาไง
คุณสามีก็ว่า ยังไงก็ต้องทำ เพื่อไม่ให้มีปัญหาภายหลัง
อีเมีย คิดสั้นๆแค่ว่า ถอนแม่งไปเลย ว๊ะ ฮ่า ฮ่า ฮือ ฮือ Y_Y
ก็ต้องรออีกพัก ถึงจะตัดสินใจได้
เพราะถ้าตกลงจะกลับบ้านกลางปีหน้าอยู่แล้ว
ก็อาจจะรออีกซักพัก แล้วกลับไปทำบ้านทีเดียว
ค่าทำฟันถูกกว่าก็จริง แต่ถ้ารวมค่าตั๋ว ก็แพงกว่าทำที่นี่..
(แต่ดีที่ว่า ได้กลับบ้านด้วยไง..และเวลาหมอว่าอะไร ก็เข้าใจถูกต้อง)

แต่ตอนนี้.. ช่วงนี้
ต้องพยายามใช้ไหมขัดฟันให้บ่อยขึ้น หลังแปรงฟัน
หรือทุกครั้งหลังมื้ออาหาร
จะช่วยให้ไมีมีหินปูด ลดอาการเหงือกอักเสบ หรือเลือดออกตามไรฟันได้
คุณCam เน้นย้ำเรื่องนี้มา..

ก็รู้นะว่า ค่าหมอฟันที่นี่แพง..
แต่ก็ยังอดตกใจไม่ได้ หึ หึ

อ้อ ค่าดัดฟันที่นี่ ปกติ $4,700
พิเศษ! ลดเหลือ $3,495 !!!!
(ก็ประมาณ 115,335 บาทไทย จ้า)


คำศัพท์วันนี้
Gum - เหงือก
fill teeth - อุดฟัน
molar - ฟันกราม
floss - ไหมขัดฟัน

White Castle..finally!

เคยดูหนังเรื่อง Harold and Kumar go to White Castle มั้ย?

เรื่องมีอยู่ว่า
Harold หนุ่มเกาหลี ผู้เถรตรงกับชีวิต
อะไรๆ ต้องเป็นไปตามตารางและความถูกต้อง
Kumar หนุ่มอินเดีย ที่อะไรยังไงก็ได้กับชีวิต
พยายามทำตัวไร้สาระ และจริงๆแล้ว จีเนียสสุดๆ
เย็นวันหนึ่ง ไอ้เพื่อนสองคนนี่ อารมณ์หิวๆ

แล้วเจอโฆษณาของไวท์แคสเซิลเข้า
ก็เลยตกลงว่า จะออกไปกินมื้อเย็นกันที่นั่น

(แค่ก้าวออกจากห้อง ก็ฮาแล้ว)
ก็ขับรถกันไป เรื่องเป็นเรื่องก็ไอ้ระหว่างทางไปเนี่ย
เกิดเรื่องต่างๆมากมาย กว่าจะไปถึง และกว่าจะได้กิน..เบอร์เกอร์

ถ้าเป็นไปได้ พยายามหามาดูกันนะ สนุกดี..
หยกกะว่า ถ้าเจอ ก็จะซื้อเก็บไว้เหมือนกัน..
ออกแนว ตลกคลาสสิคเหมือน Old School

หยกได้ดูเรื่องนี้ ตั้งแต่อยู่ที่ไทยแล้ว

พอมานี่ใหม่ๆ ได้ดูอีก(หลาย)ครั้งทางทีวี

ก็ถามคุณสามีว่า ไอ้ white castle เนี่ย มีจริงป่ะ?

คุณสามีก็ว่า มี แถวที่ Holt อพาร์ตเม้นต์เก่า ก็มี

แต่เค้าก็ยังไม่เคยแวะไปกิน

ก็เลยตกลงกันว่า ต้องขับไปกินกันซักวัน

แล้ววันนี้ ก็ได้โอกาสเหมาะ แพลนจะไปซื้อของที่ Target

ซึ่งwhite Castle อยู่ใกล้ๆกัน ก็เลยแวะไปกินมื้อเที่ยงกัน

พอซื้อของที่ Target เสร็จ ก็ได้เวลามื้อเที่ยง..

เอ้า มาถึงแล้ว..


White Castle เปิดบริการมา 80 กว่าปีแล้ว..

ถือว่าเป็นเบอร์เกอร์ดั้งเดิมเลยนะ..

หยกดูตื่นเต้น ออกนอกหน้านอกตามาก เหอ เหอ..
คนอื่นเค้ามา ก็สั่งแล้วก็กินปกติ
อีหนูนี่ ถ่ายรูป.. และถ่ายรูป
ก็อายนะ แต่เพื่อบล็อก ฮ่า ฮ่า..

ที่นี่พิเศษที่ว่า เบอร์เกอร์ที่นี่เป็น Mini-burger

ราคาเริ่มต้น อันละ ไม่ถึง เหรียญ (ประมาณ 60 เซนต์มั้ง)

แล้วก็เลือกสั่ง ชุดประหยัด ฮ่า ฮ่า..

เบอร์เกอร์ 2, น้ำ 1 และฟรายส์ 1 ชุดละ $2.99

นี่สองชุด ของหยกกับเดวิด

ของหยกเป็น chicken ring burger, เดวิดเป็น BBQ burger

แบ่งกันกินคนละอัน ของเดวิดอร่อยดีเหมือนกัน เนื้อจะหวานๆ

ในที่สุดก็ได้กิน.. ตื้นตันใจ น้ำตาจะไหล..(Y^Y)

หัวยุ่งมากเลยรูปนี้..

ขอบคุณที่พามาจ้า..

มื้อนี้หยกเลี้ยง.. (แต่ก็เงินเค้าน่ะล่ะ กั๊กๆ)

สองคน สองชุด แค่ประมาณ 7 เหรียญเท่านั้น ถือว่าถูกอยู่

เทียบกับแมคเมื่อคืนก่อน สองคน 14เหรียญแน่ะ

พยายามถ่ายให้ติดร้าน แต่.. ได้เท่าที่เห็น

อันนี้คุณสามีช่วยถ่ายให้..

อยากมากินอีก.. เพราะอร่อยและราคาไม่แพงเลย

ถึงจะไม่ไกลมาก แต่เพราะไม่ได้ผ่านมาแถวนี้

ถ้าจะขับตรงมากินอย่างเดียว ก็ไม่ค่อยคุ้มเท่าไร..

ถ้าเห็นที่ไหน ก็อย่าลืม แวะมาลองชิมกันดูนะ

.. คิดว่า น่าจะชอบกัน..

แวะไปเยี่ยมชมได้ที่ http://www.whitecastle.com