Muskoka Episode III

05-09-09

เช้าวันเสาร์ ตื่นแต่เช้า อากาศดี มีหมอกพองาม
ก็เลยออกไปถ่ายรูปตอนเช้ากัน



สีตึกสวยนะ เดวิดบอกว่า อาคารที่เห็นสีสวยๆน่ะ ไม่สามารถทาสีได้ตามใจนะ
ทางเมืองหรือรัฐจะกำหนดให้ว่าต้องทาสีนี้ได้ สีนี้ไม่ได้ เค้าจะเอาสีมาให้เลือก
แล้วก็ต้องเลือกทาตามนั้น เออ แปลกดี.. (แต่ก็ออกมาสวยแปลกดี ดูสดใสดี)




ที่เห็นนี่ ไม่ได้แต่งรูปเลยนะ ของจริงที่ถ่ายได้ตอนนั้นเลยแหล่ะ
ตอนแรกดูที่ถ่ายในกล้องเฉยๆ แต่พอดูในคอม ว้าวว..ว..ว สวยว่ะ


เจ้าเป็ดตะกละ ฮ่าฮ่า คิดว่ามันคงฉินกับคนให้อาหารน่ะ เพราะไม่กลัวคนเลย
พอยื่นมือ ทำท่าให้อาหาร มันจะดิ่งๆๆๆ มาเลย จะกิน
แล้วเดินตามด้วยนะ ไม่มีกลัว ตัวเดียวชั้นก็มั่น..
เสียดายไม่ได้พกอะไรไป ก็เลยไม่ได้ให้มันกินอะไรเลย น่าฉงฉาน..

เมื่อกินข้าวเช้ากันแล้ว (บีบคอ)ให้เดวิดพาไปร้านโปรด
ร้าน Dollarama >_<


ร้านนี้จะมีของเยอะมากกก.. และราคาถูก
แต่ก่อน ทุกอย่าง CAD$1 หรือประมาณ 30 บาท
เหมือนตลาดนัดบ้านเราที่ว่า ทุกอย่าง 20 ทุกอย่าง 10 บาทน่ะ
แต่ตอนนี้มีบางอย่างที่มากกว่า CAD$1 แต่ก็ไม่ได้แพงมาก
อันไหนที่ไม่ใช่ สติ๊กเกอร์บอกราคา ก็จะมีแค่ CAD$1.25 กับ CAD$2
สรุปคือแพงสุดก็ 60บาท ซึ่งก็เป็นของที่สมกับราคา
หยกมาร้านนี้ ช้อปแบบสบายใจ แต่ก็หมดหลายอยู่ หยิบเพลินไง
อย่างละเหรียญๆ หลายๆอัน ก็หลายเหรียญอยู่ เหอ เหอ


หยกมาได้ของใช่ในครัวก็ที่ร้านนี้หลายอย่าง เพราะเวลาไปดูตามห้าง
มีดอันเดียว $9 ประมาณ 300บาทแน่ะ แต่ที่นี่หยกซื้อแค่ CDA$1.25 และดีด้วย


ได้ตะกร้า กับกะละมังล้างผักก็ที่นี่ เสียที่มีแต่ในแคนาดา


นี่ก็ 30 บาท น่ารักมากกก..ก.. อันเล็ก ถ้าใหญ่กว่านี้หน่อยก็ 40บาท




ใกล้จะฮัลโลวีนแล้ว เลยมีพวกนี้วางขายเพียบ (30 เช่นกันค้าบ)
พอหลุดฮัลโลวีนก็ Thanks giving แล้ว Christmas

กลับมาช่วยไดแอนเตรียมมื้อเย็น บาร์บีคิวเนื้อ เย้ๆๆ


ช่วงบ่ายออกทะเล(สาป)กัน ขับเรือพาทัวร์ดูบ้านเมือง
และบรรยากาศ รอบๆทะเลสาป

บางคน(บางตัว) เตรียมพร้อมออกรบเต็มที่ก่อนใคร (น่าร๊ากกกกกกกกกก >_<)
แรกๆ ยังสบายๆ เย็นชิวๆ
ก่อนมาก็คิดว่าแค่เป็นทะเลสาบเล็กๆ ไม่ใหญ่มาก
แต่พอได้นั่งเรือเที่ยวแล้ว ถึงได้ตรัสรู้ว่า แม่งใหญ๋โคตรรร..รร.. O__O’
และนี่ยังไม่ใหญ่ที่สุดนะ มีใหญ่กว่านี้ และมีอีกหลายที่ด้วยเหมือนทะเลย่อมๆ
แต่เป็นน้ำจืด (ซึ่งดีมากเพราะไม่เหนียวตัวดี) ไม่มีคลื่น
ถึงมีก็เป็นระลอกเล็ก เพราะลม มีเกาะเล็ก เกาะน้อย บนเกาะ
หรือริมฝั่งก็จะมีบ้านกระจัดกระจาย ซึ่งส่วนมากก็จะมีโรงเก็บเรือกันทุกบ้าน
เพราะทุกบ้านต้องใช้เรือเป็นพาหนะ หรือใช้ขับเที่ยวรอบๆ
ซึ่งโรงเก็บเรือ หรือ Boat House นั้น ก็มีสไตล์แตกต่างกันไป

มีตั้งแต่ธรรมดาแบบนี้


บ้างก็ประยุกต์หลังคาให้เป็นชานริมน้ำ

เอาไว้สังสรรค์กันยามอากาศดี ข้างใต้ก็เป็นโรงเก็บเรือ


ขับออกไปเรื่อยๆ ก็จะเริ่มแปลกและแฟนซีขึ้นเรื่อยๆ

นี่ก็โรงเก็บเรือ

มีน้ำตกด้วย จะไฮโซไปไหนก๊านน..น..


นี่โรงเก็บเรือนะคะ ไม่ใช่บ้าน (จะใหญ่กว่าบ้านอยู่แล้ว)


นี่ก็โรงเก็บเรือ แม่เจ้า! ไม้ทั้งหลัง (บ้านนี้เจ้าของเป็น หมอ,แพทย์)
ส่วนบ้านอยู่บนดิน กำลังสร้างอยู่ ยังไม่เสร็จ อลังการงานสร้าง..


เริ่มหนาวขึ้นเรื่อยๆ เพราะเมฆเยอะ แดดไม่มี


อันนี้เกาะส่วนตัวเลย เปรี้ยวมาก..
(มีแบบนี้อีกหลายเกาะ ที่เป็นเกาะส่วนตัว)

ส่วนมาก เท่าที่สังเกต เค้าจะสร้างบ้านและโรงเรือ
ในสไตล์ที่แมชกันคือ ดูแล้วบอกได้เลยว่า โรงเรือนี้เป็นของบ้านไหน





ของจริงสวยและอลังการทุกหลัง เห็นแล้วแบบว่า จะรวยกันไปถึงหน๊ายยย..ย..
ดั๊กก็ดูๆไว้ เฮียแกแพลนจะซื้อบ้านริมน้ำในอนาคต
แกก็ขับพาดูที่ๆเฮียแกเล็งๆไว้ ..


อากาศเริ่มเย็นขึ้นเรื่อยๆ
อีหนูหยกล่อผ้าห่มแล้ว ไม่ไหวๆ

กลับคอนโดกินมื้อเที่ยง
ช่วงบ่ายประมาณ 4 โมง เคอร์ติสกลับจากทำงาน
ก็ชวนออกไปเล่นเวคบอร์ดกัน ก็ยกโขยงออกทะเล(สาป)กันอีกรอบ


หน้าตา WakeBoarding ที่ว่า
อันนี้ราคาประมาณ $1,200 หรือประมาณ 36,000 บาท
อืม.. น่าสนใจ (_ _)(-_-)(_ _)

เคอร์ติสโชวลีลาขั้นเทพก่อน..




ตามด้วยลุงเด (โดยมีึคุณหลานเป็นติวเตอร์)






ตบท้ายด้วยว่าที่พี่และหลานเขย มาร์ค


ไอ้หยกว่าง.. ถ่ายรูปตามเคย เอิงเอย..



มุขหากิน พระอาทิตย์ มือ เงา และเท้า (รูปเท้า หยกจะเรียก Happy Feet)


อ๊ะ.. เรือ Segwun สัญลักษณ์อย่างหนึ่งของที่นี่
เป็นเรือนำเที่ยว และร้านอาหาร
เห็นแล้วนึกถึง Titanic

เมื่อเล่นกัน จนสำลักน้ำเป็นที่พอใจแล้ว ก็หัวหัวเรือกลับฝั่ง
ย่างๆปิ้งๆบาร์บีคิว ออกมา กินข้าวสวยร้อนๆ พร้อมสลัดซีซาร์และขนมปัง

อิ่มแปร้..

กินเสร็จก็ออกมา เก็บภาพ พระอาทิตย์ตกน้ำ



จบวันที่สองที่ Muskoka